ช่างความงามไทยดังกระหึ่มเกาหลีใต้ กวาด 2 รางวัลใหญ่เวทีดัง INTERNATIONAL BODYART CONTEST พร้อมกวาดรางวัลอื่นติดมืออีกหลายถ้วย ตอกย้ำความเชื่อมั่นฝีมือคนไทย มุ่งหวังส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านความงามสู่ตลาดโลก
น.ส.ปิยวรรณ บุญศรี จอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานต่างประเทศ K-Beauty เกาหลีใต้ ในฐานะเลขาธิการ K-Beauty ประเทศไทย กล่าวถึงมหกรรมความงาม INTERNATIONAL BODYART CONTEST ครั้งที่ 12 OLYMPIC 2021 ณ ซูวอน คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เมืองซูวอน ประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า งานดังกล่าวเป็นการแข่งขันประกวดฝีมือช่างอาชีพด้านสุขภาพและความงาม เวทีใหญ่และมีชื่อเสียงของประเทศเกาหลีใต้ จัดโดย The Federation of K -Beauty Professional (สมาพันธ์ความงามมืออาชีพเกาหลีใต้) ซึ่งทีมประเทศ ไทยได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถคว้ารางวัลมาได้อย่างน่าชื่นชม ซึ่งรางวัล World Grand Prix เป็นถ้วยใหญ่สุดได้มาถึง 2 ถ้วย ได้แก่ สาขา Thai Body Massage ผู้รับรางวัล คือ คุณจันทร์เพ็ญ โคษาสด และสาขา Body Massage &Spa Theraphy ผู้รับรางวัล คือ คุณพรศิริ วารี ประกาศความสามารถของการนวดและสปาไทย ตอกย้ำความเชื่อมั่นในฝีมือคนไทยให้โด่งดังไปอีกขั้น
สำหรับรางวัลระดับรอง Grand Grand Prix ประเทศไทยได้มาอีก 2 สาขา คือ การสักสีปาก ผู้รับรางวัล คือ คุณพัชรภรณ์ ลี ที่โชว์เรื่องเทคนิคการทำปากให้ดูอวบอิ่ม รูปปากออกมาสวยงาม และ ทักษะการให้สี ที่สวยงามโดดเด่น แต่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ศิลปะการต่อขนตาแบบวอลุ่ม ผู้รับรางวัล คือ คุณนิน ทันดาร์ การออกแบบขนตาให้เข้ากับรูปหน้า การเรียงเส้นที่สวย แลดูเป็นธรรมชาติ
“ส่วนที่เหลือก็ไม่น้อยหน้า คนไทยสามารถคว้ารางวัลระดับ กรังปรีซ์ มาสเตอร์ (Grand Prix Master) มาได้กันถ้วนหน้า ซึ่งที่ผ่านมาเราได้รางวัลมากสุดก็แค่ ถ้วยกรังปรีซ์ (Grand Prix) ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้แข่งขันชาวไทยสามารถคว้าถ้วยรางวัลกลับบ้านกันทุกคน แสดงให้เห็นว่าช่วง 2 ปีที่หายไป ช่างไทยเราพัฒนาฝีมือกันได้อย่างรวดเร็ว” น.ส.ปิยวรรณกล่าว
น.ส.ปิยวรรณ กล่าวด้วยว่าการประกวดฝีมือช่างงานนี้ได้แบ่งสาขาออกเป็นประเภทต่างๆได้แก่ 1.SPMU eyebrow การสักคิ้ว 2.Lip tattoo สักปาก 3.Eyelash Extensions ต่อขนตา 4.Nail Extension ศิลปะการตกแต่งเล็บ 5. Waxing 6.Make up 7.Face Massage การนวดหน้า 8.Body Spa การนวดสปาตัว และ Thai Body Massage 9.Hair Clip Extension การต่อผม ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ที่มีผู้เข้าแข่งชาวเกาหลีเข้าร่วมงานกว่า 1,500 คน กรรมการตัดสินอีกกว่า 1,000 คน
“K-Beauty เข้าร่วมแข่งขันเพื่อต้องการยกระดับฝีมือช่างอาชีพ ให้มีการพัฒนา ตลอดเวลา มากกว่า การจะตัดสินว่าใครเก่งใครดีกว่าใคร เวทีนี้ถึงมีการกำหนดมาตรฐานไว้เป็นระดับของความสามารถ ตามถ้วยรางวัล และใบประกาศเกียรติคุณ รางวัล World Grand Prix , รางวัล Grand Grand Prix , รางวัล Master Grand Prix , รางวัล Grand Prix
ทั้งนี้ K-BEAUTY เป็นสมาพันธ์ด้านความงามระดับแนวหน้าในประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการทำงาน เพื่อยกระดับและ พัฒนาฝีมือช่างอาชีพด้านนี้ ให้เป็นที่รู้จัก และสามารถต่อยอดธุรกิจของตนได้ ตามนโยบายที่ต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศเกาหลีให้โดดเด่น และเป็นผู้นำด้านความสวยความงามในตลาดโลก ซึ่งถือเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีที่วางไว้ตั้งแต่ปี 2000 จัดตั้งขึ้นมาจากการรวมตัวของนักธุรกิจ ,ผู้เชี่ยว ชาญด้านสุขภาพและความงาม ,สถาบันสอนช่างอาชีพ ของเกาหลี ตั้งแต่ปี 2013 และมีการจัดงานแข่งต่อเนื่องมาทุกปี จนมาหยุดไปช่วงสถานการณ์ โคโรน่าไวรัสทั่วโลก
คุณ ชง จี ฮยอง (Song Ji Hyung) K-Beauty Korea Director ผู้อำนวยการประสานงานของเกาหลีใต้ กล่าวว่าการแข่งขัน ในปีนี้ถือเป็นเวทีระดับประเทศของเกาหลีที่มีคนเข้าร่วมเยอะที่สุด หลังจากปิดประเทศมาจากสถาน การณ์โควิด โดยปีนี้เราเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติในประเทศสมาชิกของเรากว่า 15 ประเทศ ส่งผลงานเข้าประกวดแบบออนไลน์ โดยส่งคลิปวีดีโอความยาวต่อเนื่อง จับเวลาเสมือนนั่งแข่งจริง ความยาว 45 นาที โดยสมัครผ่าน สำนักงาน K-Beauty ประจำประเทศ นั้นๆ ซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันจากประเทศสมาชิกของ FKBP K -Beauty จากทุกมุมโลก ได้แก่ Korea ,USA, Indonisia, Thailand, Philippines, Vitenam, Japan, Germany, Cannada, Australia Malaysia ,China ,Taiwan , Kuwait,Dubai”
“ในส่วนของ ประเทศไทย เรามีสำนักงาน K-Beauty ประจำประเทศไทย ที่อยู่ในความดูแลของ คุณ เจมูน จอง (Mr.Jae Moon Jung )ประธานผู้รับสิทธิ์ ดำเนินงานแทนสมาพันธ์ K-Beauty เกาหลี ในประเทศไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยส่งผู้สมัครเข้าร่วมงานกว่า 100 ชีวิตใน 5 ประเทศ และมีคนไทยกว่า 30 คนเข้าร่วมด้วย และมีกรรมการตัดสินตัวแทนคนไทยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน คือ คุณน้ำใจ คำแก่น แชมป์โลกการสักคิ้วประเภท แฮร์สโตค ปีล่าสุด ,ผอ.อำภา ชาญรบ จากศูนย์ทดสอบฝีมือแรงงานสุธาทิพย์ ตัดสินสาขานวดสปา และ อาจารย์ยุ้ย จากสถาบันสอนสักคิ้ว ต่อผม ยูอี โคเรีย ที่อยู่ในเกาหลี และเป็นผู้เดียวที่เดินทางไปร่วมงานได้จากสถานการณ์โควิด และเป็นผู้รายงานบรรยากาศสดๆจากสนามแข่งที่ซูวอนมาให้ชมในช่องทางการ Live สด ผ่านเฟซบุ๊ค K-Beauty และ ช่องยูทูบ K-Beauty Thailand และยังมีกิจกรรมการสาธิต เทคนิคช่างฝีมือ ในสาขาต่างๆจากโรงเรียน สถาบัน หน่วยงานที่ทำงานร่วมกับ K-Beauty Thailand ให้ชมกันด้วย”ผู้อำนวยการประสานงานของเกาหลีใต้กล่าวย้ำ
อาจารย์ จอน เจยุน (Jeon Jea Yoon) หนึ่งในประธานกรรมการตัดสินสาขาศาสตร์การนวดชาวเกาหลี กล่าวชื่นชมผู้เข้าแข่งคนไทยที่ได้รับรางวัลว่า ผู้แข่งขันไทยมีความโดดเด่นในเรื่องการนวดสปา ด้วยการผสมผสานทักษะการนวดทั้งแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งลักษณะแบบนี้ชาติอื่นจะไม่มีการนวดลักษณะนี้เลย ส่วนการนวดไทย Thai Body ผู้แข่งก็ปล่อยของจัดระเบียบท่าทางการนวด ทั้งความต่อเนื่องของท่า (ลีลา) และจัดระเบียบเวลาในการนวดได้อย่างดี พร้อมเน้นการรักษา บรรเทา ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการนวดไทยที่ไม่เหมือนชาติใดอยู่แล้ว
ดร.ณัฐพล อัครกาญจนา นากยกสมาคมพัฒนาศิลปาชีพ ในฐานะประธานบริหาร สำนักงาน K-Beauty ประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันในปีนี้เรารอคอยการจัดงานเวทีใหญ่นี้มากว่า 2 ปี ซึ่งครั้งล่าสุด ที่สามารถเดินทางไปร่วมงานที่เกาหลี ได้คือ ครั้งที่ 10 ปี 2519 แม้ครั้งนี้จะไม่สามารถไปร่วมงานได้ แต่เราได้ถ่ายทอดสดบรรยากาศการจัดงาน ในเกาหลีส่งตรงมาถึงไทยแบบเรียลไทม์ ซึ่งก็ลุ้นกับรางวัลของคนไทยอยู่เหมือนกัน แล้วในที่สุดทุกคนก็ยิ้มใจอย่างภูมิใจ ถือเป็นปรากฎการณ์ที่น่ายินดีว่าผู้แข่งขันคนไทยได้รับรางวัลในลำดับต้นๆกันทุกคน ทำให้เรามั่นใจได้ว่าช่างไทยมีฝีมือมาตรฐานระดับสากลไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน
“ส่วนสนามแข่งในประเทศไทยที่ต้องหยุดไป 2 ปีอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด ซึ่งสนามแข่งในประเทศไทยเราจัดในระดับ ชิงแชมป์ Asia ครั้งล่าสุดจัดไปงาน Health and Beauty of Asia Awards 2019 ก็มีผู้แข่งขันทั้งจากไทยและประเทศเพื่อนบ้านบินมาร่วมงานที่หอประชุมวายุภักดิ์ ทั้งจาก เวียดนาม ฟิลิปปินส์ พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย สิงค์โปร์ และกรรมการจากเกาหลีก็บินมาร่วมงาน อย่างไรก็ตามเรากำลังรอคอยคำสั่งจากรัฐบาลเช่นเดียวกัน แต่หากเราพิจารณาแล้วว่าสถานการณ์ยังไม่น่าสบายใจ เราเน้นความปลอดภัยของการจัดงานเป็นสำคัญมากกว่า ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบประกวดแบบไม่ต้องรวมกลุ่ม หรือจะเป็นแบบออนไลน์ ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะจัดในเดือนมีนาคม 2565 ขอให้โปรดติดตาม”ดร.ณัฐพลกล่าวทิ้งท้าย