“แม่แตงโม” เปิดใจ เขียนจม.ขอ “ทนายตั้ม” อย่ายุ่งเรื่องคดี ลั่นไม่จ้างเป็นทนายเพราะไม่รู้จักจึงไม่ไว้ใจ !

“แม่แตงโม” เปิดใจ เขียนจม.ขอ “ทนายตั้ม” อย่ายุ่งเรื่องคดี ลั่นไม่จ้างเป็นทนายเพราะไม่รู้จักจึงไม่ไว้ใจ ตอนนี้ต้องมีทนายเพราะตอบเลอะเลือน

รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.05 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” วันนี้ (มี.ค.) ยังเกาะติดเหตุการณ์หลังการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนางเอกชื่อดัง “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” โดยเปิดใจสัมภาษณ์ “กฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย” ทนายความ “แม่ภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม หลังจากที่ “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ได้โพสต์ข้อความระบุว่าคุณแม่ส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือตัวเอง ไม่อนุญาตให้ทนายษิทราเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น   

เห็นข้อความที่คุณแม่ทนายตั้มแล้ว คุณแม่บอกว่าไม่ให้ยุ่ง แต่ทนายตั้มบอกว่าเขาได้รับมอบอำนาจจากพี่ชายคุณแตงโม แบบนี้เขาสามารถยุ่งเกี่ยวกับคดีได้มั้ย?

กฤษณะ อันนี้ผมขออธิบายเรื่องทางกฎหมาย ที่ทนายษิทราถูกพี่ชายแต่งตั้งเข้ามา ถ้าตามหลักแล้ว ตอนนี้ผมยังไม่เห็นใบแต่งตั้งทนาย หรือหนังสือมอบอำนาจ หรืออาจมาในลักษณะที่ปรึกษาก่อน ในทางกฎหมายสามารถแต่งเข้ามาได้ แต่ว่าจะไปดูเรื่องมรดก เรื่องคดี คุณแม่จะมีสิทธิ์ในการเข้าไปต่อสู้ในทางคดีอาญาและแพ่งด้วย ส่วนมรดกอะไรต่างๆ ก็เป็นเรื่องของทนายษิทรา เป็นโจทก์ร่วมได้ จริงๆ แล้วตอนนี้ถ้าในเชิงคดีอาญา ทางคุณแม่มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวก่อน

แสดงว่าถ้าทนายษิทรา และพี่ชาย มีหลักฐานอะไรก็ตาม ไม่สามารถยื่นต่อศาล ต่อตร.ได้ ถ้าไม่มีสิทธิ์ในการทำคดี?

กฤษณะ : จริงๆ แล้วคดีนี้อาจมองว่ามีทนายเพิ่มเข้ามาอีกท่านนึง ถ้าพูดถึงแล้วก็เป็นผลดีในการพยายามหาหลักฐานมาช่วยเหลือกัน แต่ผมก็เพิ่งทราบเมื่อเช้านี้ก็ต้องกลับไปนั่งพูดคุยกันอีกทีว่ามีเหตุการณ์นี้มาเห็นโพสต์มาแบบนี้ ก็จะไปขอเรียนปรึกษากับท่านอีกทีว่าจุดประสงค์ของท่านตอนนี้คือผมคนเดียว ซึ่งคุณดายศ ก็เพิ่งทราบเมื่อเช้านี้จริงๆ

ติดต่อคุณแม่ว่าจะมารายการในวันนี้ แต่เมื่อคืนความดันขึ้น ไม่สามารถมาได้ เลยให้คุณกฤษณะมาคนเดียว แต่ทนายตั้มพูดในรายการเลยนะ เขาบอกว่าไม่เกี่ยวกับแม่ เรื่องนี้แม่ไม่มีสิทธิ์ เขาทำได้?

กฤษณะ ถ้าถามว่าทำได้มั้ย ทนายษิทราทำได้ แต่ในบทบาทหน้าที่จะไปเป็นแนวไหน ผมก็ต้องคุยกับทนายษิทราอีกครั้ง แต่ตอนนี้เจตนารมณ์แม่ก็ชัดเจนว่าเป็นผมแต่เพียงผู้เดียว แต่ผมเองก็เคารพทนายษิทรา เรื่องความรู้ความสามารถ ส่วนตัวผมเองยินดีที่จะมีการค้นหาพยานหลักฐานช่วยเหลือกัน

แต่ในเคสนี้ ทนายกฤษณะกับคุณแม่ มีสิทธิ์ติดคุกนะ เขาขู่ไว้แบบนี้?

กฤษณะ : น่าจะเป็นเรื่องกรมธรรม์ เรื่องการไปเผยแพร่กรมธรรม์ ซึ่งทำให้น้องอีสเตอร์เสียสิทธิ์ จุดประสงค์ของผมเองไม่ได้เป็นแบบนั้น ตัวผมเองเห็นว่ามีความขัดแย้งในเรื่องนี้ ตัวผมเป็นทนายความ เลยใช้ข้อกฎหมายมาช่วย คือยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ให้ศาลเยาวชนและครอบครัวจัดหน่วยงานนึงเข้ามาดูแลในส่วนของเงินก้อนนี้ เพราะหนึ่งคดีคุณกระติกก็ยังไม่ชัดเจน คุณแม่เองตอนนี้ก็ยืนยันแล้วจะยกให้น้องทั้งหมดเลย ทางผมก็ได้พูดคุยและทำความเข้าใจต่างๆ

ยกให้หมดแล้ว ทำไมต้องไปร้องศาลให้ศาลส่งหน่วยงานมาดูแล?

กฤษณะ มันมีทางสังคมที่มีฟีดแบ็กกลับมา ซึ่งตัวผมเองเป็นคนนำเสนอ หาตัวกลาง ให้ศาลเป็นคนจัดการ ส่วนคุณแม่หรือคุณกระติกจะร้องขอก็ทำคำร้องเข้าไปได้ ศาลจะอนุญาตหรือไม่ก็เป็นดุลยพินิจของศาล ถ้าถามว่าคุณแม่ไว้ใจหรือไม่ไว้ใจคุณกระติก อันนี้คงไปฟันธงอย่างนั้นไม่ได้ แค่อยากให้มีตัวกลางในการดูแลเงินก้อนนี้ น้องก็ไม่ได้เสียอะไร จุดประสงค์ผมที่ทนายษิทราโพสต์เข้ามาก็เคารพและยินดีรับฟัง แต่กฎหมายอาญาต้องดูเจตนาเป็นหลัก เจตนาผมต้องการหาคนกลางมาดูแลเรื่องนี้ ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไร คุณแม่ไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่การเบิกจ่ายอยากให้มันโปร่งใส น้องก็ไม่เสียผลประโยชน์อะไรในเรื่องนี้

ตอนนี้ 30 ล้านคุณแม่อาจไม่ได้แล้ว?

กฤษณะ จริงๆ ข่าวที่ออกไปบอกว่าคุณแม่รับ 30 ล้านไปแล้ว ไม่ใช่นะ ผมยืนยันเลยว่าไม่ใช่แน่นอน ซึ่งผมเองเคยสอบถามคุณแม่เรื่องเรียกค่าสินไหมทดแทน ซึ่งทนายความเขาต้องถามอยู่แล้วว่าน้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง รายรับอะไรบ้าง คุณแม่เลยลองคำนวณออกมา ในส่วนที่คุณแม่ไปคุยกับคุณปอ ผมไม่ทราบจริงๆ แต่ยืนยันว่าคุณแม่ไม่ได้รับเงินในก้อนนี้มา

ยังเรียก 30 ล้านอยู่หรือเปล่า?

กฤษณะ : ตรงนี้บอกไม่ได้ เป็นเหตุผลในรูปของคดี ผมเองต้องคิดคำนวณแล้ว ไม่ใช่ตัวเลข 30 ล้านแต่ขอไม่พูดตรงนี้ เพราะเป็นรูปคดีที่ผมจะต้องนำเสนอเข้าไป

เขาบอกคุณแม่ได้รับไปแล้ว 20 ล้าน?

กฤษณะ ไม่มีครับ คุณแม่ไม่เคยคุยกับผมเลยว่ารับไปแล้ว แล้วทางคดี ถ้าผมไปทันในช่วงนั้น ผมได้คุยกับคุณแม่อาจไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น

คือที่บอกว่ารับเงิน 10 ล้าน 20 ล้าน 30 ล้าน ไม่ได้เลย?

กฤษณะ อันนี้ผมเรียนถามคุณแม่โดยตรง คุณแม่ก็บอกว่าไม่เคยมีใครเอาเงินมาให้คุณแม่แม้แต่บาทเดียว จริงๆ แล้วผมแนะนำคุณแม่ว่าไม่สมควรพูดในเวลานี้ แต่ตอนนั้นคุณแม่ไม่มีทนายจริงๆ ก็เลยหลุดออกไปหมด

พี่กฤษณะบอกว่าจริงๆ แล้วน่าจะให้คุณแม่รอคดีจบก่อนแล้วค่อยพูด?

กฤษณะ จริงๆ คุณแม่ก็ตอบไปตามที่ให้ข่าวไป คุณแม่ยังสับสนอยู่ ก็มีการแนะนำจากหลายทาง คุณแม่เองขาดผู้แนะนำ สื่อต่างๆ ก็แนะนำให้คุณแม่หาทนาย ก็ต้องขอบคุณคุณแม่ที่นึกถึงผม ก็ไปนั่งอธิบายคุณแม่ คุณแม่ก็เริ่มเข้าใจ

โฟนอินหา “แม่ภนิดา” แม่แตงโม ทำไมอยู่ๆ ถึงตั้งทนายกฤษณะมาดูแลเรื่องนี้?

แม่ภนิดา ความจริงต้องมีทนายอยู่แล้ว คุณแม่ไม่ยอมตั้งมากกว่า เพิ่งตั้งได้ 3 วัน

ทำไมต้องตั้งทนาย?

แม่ภนิดา ต้องช่วยคุณแม่ไง คุณแม่พูดเลอะเลือนแล้ว เลอะเทอะแล้ว สมองไม่ได้เลย รับโทรศัพท์ทั้งวัน แล้วไหนต้องไปทำเอกสารอีก ทุกวันนี้ไม่ได้ไปโรงพัก ยกเว้นเรียกมาก็ไป

คุณแม่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ทำไมเขาถึงเรียกคุณแม่ไปสอบปากคำอยู่เรื่อยๆ?

แม่ภนิดา เขาจะสอบถามว่าคิดว่าอย่างไร ส่วนมากที่ไปจะเป็นเรื่องศพน้องโม ไปดูศพ ไปรับศพ เอาใบมรณบัตร ไปแจ้งตร. รับศพ ไปนิติเวช ส่วนมากที่ไปมาเนี่ยนะ

ลูกชายคุณแม่ “พี่ต่อย ดายศ” เขาให้ทนายตั้มเป็นคนดูแล ทำไมไม่เลือกใช้ทนายตั้ม มีความไม่พอใจอะไรในตัวทนายตั้มหรอืเปล่า?

แม่ภนิดา บอกตรงๆ ไม่รู้จักทนายตั้ม เห็นแต่ในทีวี

ก็เลยไม่ไว้ใจเหรอ?

แม่ภนิดา ใช่ เราไม่รู้จักเราจะไปจ้างเขาได้ยังไงคะ แต่กับคุณกฤษณะเรารู้จักกันมาก่อนแล้ว เราเตรียมเขาไว้แล้ว แต่คุณแม่ขอเวลาเดินเอกสารเสร็จแค่นั้นแหละ ก็ทันที เดินเอกสารเสร็จก็ได้ลงโฟนอินกับรายการพี่ต๊ะ นารากรทันที

ได้ข่าวว่าแม่ความดันขึ้นเพราะเมื่อคืนมีคนส่งรูปแตงโมตอนจมน้ำไปแล้วมาให้แม่ดู?

แม่ภนิดา ไม่ใช่ๆ แม่ความดันขึ้นเพราะทุกวันไม่ได้นอนพอเลย คุณแม่รับโทรศัพท์นักข่าว ซึ่งเป็นลูกรักทั้งหลายเป็นพันๆ คนเลยนะไม่ปฏิเสธนักข่าว

โกรธมั้ยที่ลูกชายไปจ้างทนายตั้มมาให้ทำคดีควบคู่กับคุณแม่จ้างทนายกฤษณะมาทำคดี?

แม่ภนิดา : คุณแม่ได้ออกจดหมาย ออกทีวีไทยรัฐไปแล้ว ไปตามดูนะ ตามนั้นเลยค่ะ

แต่เขาเลือกที่จะทำ และบอกว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาตคุณแม่?

แม่ภนิดา อ้าว เดี๋ยวคุณแม่ก็ให้ทนายคุณแม่จัดการเองแหละ

ในโซเชียลตอนนี้มีคนตำหนิต่อว่าคุณแม่ค่อนข้างเยอะมาก อยากจะดำเนินคดีหรืออยากปล่อยผ่านไป?

แม่ภนิดา : ปล่อยผ่านค่ะ คุณแม่ไม่สนใจค่ะ ใครก็ว่าคุณแม่ได้ คุณแม่ดังขึ้นมาแล้ว เป็นคุณแม่ดารา ถ้าลูกไม่ตายคุณแม่ก็ยังไม่ดังหรอก พอตอนนี้มีลูกเป็นดารา ไปไหนคนก็จำได้ ไปห้างก็มีคนมาขอถ่ายรูปเต็มไปหมด  ปล่อยผ่าน ใครด่าเราได้อย่าไปสนใจ ด่าหยาบแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน ไม่ได้อ่านซะอย่าง คุณแม่ไม่ใช่คนอ่านโซเชียลนะ ดูแต่ทีวีอย่างเดียว

มีคนบอกว่าคุณแม่เข้าไปบ้านน้องแตงโม แล้วไปเปลี่ยนรหัสผ่านและจัดการของในบ้าน?

แม่ภนิดา : เอ๊ะ ข่าวพวกนี้ทำไมมาทำข่าวกับคุณแม่แล้วไม่บอกกันนะ คุณแม่ก็บอกไปแล้ว ไม่ได้เปลี่ยนรหัสใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้เอาของออกมาใดๆ ทั้งสิ้น จะเอาของออกมาก็ต่อเมื่อทำพิธีน้องเสร็จแล้วเท่านั้น คุณแม่ก็กลัว เราเอาออกมาไม่ได้

ข่าวทุกวันนี้เยอะมาก ควรฟังจากปากเจ้าตัว?

กฤษณะ คุณแม่ก็ยืนยันกับผมว่าไม่เคยไปเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ผมก็ได้เตือนๆ คุณแม่ด้วยเหมือนกันว่าอย่าเพิ่งเข้าไปแตะอะไร

แม่ภนิดา ไม่ได้หยิบอะไรออกมาเลย เอาแต่แมว ทั้งหมดเป็นข่าวลือ วันนั้นเข้าไปหลายคน เบิร์ตก็ขอหมอนน้องโมมา ก็อยู่กันนานหน่อย เขาเก็บของเก็บอะไร แต่แม่ไม่รู้เลยกระเป๋าแพงๆ น้องโมอยู่ตรงไหน คุณแม่ก็ไม่กล้าหยิบ คุณแม่ก็กลัวเหมือนกัน

มีอะไรอยากบอกถึงพี่หนุ่ม กรรชัย?

แม่ภนิดา ไม่มีค่ะ พี่หนุ่มเขาก็ขอโทษมาแล้ว เราอย่าไปขุดคุ้ยเลย เดี๋ยวเราก็อาจต้องไปออกรายการเขาอีก เขาก็ต้องมาช่วยเหลือเราอีก เป็นคำเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ จากคำว่า “สมมติว่า” คำเดียวเท่านั้น ที่ประชาชนทั้งหลายไม่เข้าใจคุณแม่ คุณแม่พูดคำว่าสมมติว่า ถามทนายสิ สมมติว่าน้องโมแสดงเรื่องละล้าน มีชีวิตอยู่ได้อีก 30 ปี ก็คูณเข้าไปสิ ก็จะเป็นค่าเสียหายที่เขาจะจ่ายให้เรา

กฤษณะ : ส่วนนี้ขอเก็บเป็นรูปคดี เดี๋ยวเราคุยกันรอบนอกอีกที

วันนี้ทนายกฤษณะไปรอที่สถานีตำรวจเพื่อไปรอทนายตั้มเลย เพราะเขาบอก 9 โมงเช้าวันนี้ มีเรื่องแน่นอน ไปแล้วทุกคนต้องอึ้งทึ่งเสียว?

กฤษณะ ผมก็เห็นทนายตั้มโพสต์ และเห็นสำนักข่าวนึงพยายามถามทนายษิทราว่าเป็นใคร ด้วยตัวเองเป็นคนชอบค้นหา ก็ไปแต่เช้า ใส่เสื้อธรรมดา อยากรู้ว่าเป็นใคร

พอเป็นคุณดายศ พี่ชาย?

กฤษณะ : ผมไปนั่งที่ซุ้มอาหาร แต่ใกล้เวลาไม่เห็นทนายษิทรามา แต่สักพักเห็นมีไลน์ส่งมาหาผมว่าทางทนายษิทรา คุณดายศแต่งตั้ง ผมก็ตกใจเหมือนกัน เพราะยังไม่ทราบเรื่องเลย เลยโทรหาพี่ชาย ได้คุยกันเลย คุณดายศแกก็ขอโทษผมที่ไม่ได้บอก แต่จุดประสงค์คุณดายศ คือยืนยันไม่ได้มีอคติกับคุณแม่เลย ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณแม่ เมื่อวานยังไปอยู่กับคุณแม่

ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ดี ทำไมไม่เอาคุณกฤษณะคนเดียว?

กฤษณะ ทางคุณดายศบอกว่าไม่รู้จักกฤษณะดีว่าเป็นใครมาจากไหน ได้แต่แนะนำให้คุณแม่รู้จัก ว่าคุณแม่ควรมีทนาย แต่ทีนี้คุณแม่อายุมากแล้ว มาเจ็บป่วยทำอะไรไม่คล่องตัวเท่าไหร่ จุดประสงค์คุณดายศก็หวังดี แต่เครดิตทนายษิทรา น่าจะให้คำแนะนำหลายๆ อย่าง ส่วนผมกับคุณดายศ บอกตรงๆ ไม่เคยเจอตัวจริง แค่โทรศัพท์คุยกันอย่างเดียว แต่คุณดายศเป็นคนประสานทางผมให้ได้คุยกับคุณแม่ แต่คุณดายศส่วนตัวไม่เคยเจอเลย

เขามีอะไรไม่อยากบอกแม่หรือเปล่าถึงไปจ้างทนายอีกคน?

กฤษณะ จุดประสงค์คุณดายศที่ผมฟันธง 100 เปอร์เซ็นต์ คือคุณดายศอยากช่วยทางอ้อม อาจกลัวคุณแม่ไม่คล่องตัว

แต่เขาพูดว่าเงินเขาไม่สน เขาขอสู้เพื่อน้องสาว?

กฤษณะ : เป็นเหตุผลส่วนตัวของแก ซึ่งแกก็ไม่ได้พูดคำนี้กับผม แต่ที่ผมฟังมา แกเป็นห่วงคุณแม่ กลัวคุณแม่จะไปทำอะไรที่ให้ข่าวสื่อต่างๆ มันพาด ก็อยากให้มีทนาย รบกวนผมให้ช่วยคุณแม่ได้มั้ย ซึ่งผมก็ยินดีเข้าไปช่วยเหลือ

หรือว่าดายศมองว่าแม่ไม่ติดใจดำเนินคดี เพราะมีข่าวเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องหรือเปล่า?

กฤษณะ : ผมว่าประเด็นนี้ไม่น่าใช่ ทนายษิทราน่าจะให้ข้อมูลคุณดายศมาตั้งแต่แรก ซึ่งผมเองก็มาทีหลัง คุณดายศก็ต้องเชื่อมั่นในทนายษิทรามากกว่าอยู่แล้ว ผมก็ต้องขอบคุณทนายษิทรา ขอบคุณพี่ทนายทุกคน ที่ให้ความรู้มาตลอด ถามว่าผมมีความรู้สู้พี่ๆ เขาได้มั้ย ผมเองก็คือสภาทนายความสอบผ่าน แต่เรื่องความอาวุโสในวงการ ผมก็ต้องเคารพและให้เกียรติ

หมายถึงพี่กฤษณะ ก็ยืนยันว่าแม่ก็ตั้งใจดำเนินคดีอาญาอยู่?

กฤษณะ ใช่ครับ เพราะคดีนี้ยอมความไม่ได้ เป็นอาญาแผ่นดิน ถึงไปรับเงินรับอะไรมา ก็ต้องดำเนินคดี

ได้คุยกันมั้ย คุณแม่ถึงขั้นมีจดหมาย แสดงว่าแบบนี้คุณแม่ไม่พอใจสิครับ?

กฤษณะ คุณแม่โทรมาหาผมเลย บอกว่าเดี๋ยวจะมีหนังสือฉบับนึงนะ แม่ตั้งใจให้ทนายกฤษณะเป็นทนายคนเดียว ผมก็ได้อธิบายให้คุณแม่ฟังในสิทธิต่างๆ ที่เขาจะเข้ามาแล้วล่ะ คุณแม่ก็เข้าใจในระดับหนึ่ง แต่ความหวังดีของคุณดายศ เชื่อว่าไม่ได้ขัดแย้งกับคุณแม่เลย แค่ไม่ได้บอกคุณแม่ในบางเรื่อง คุณดายศอาจตัดสินใจเอง แต่ที่คุยกับคุณดายศทุกวัน หวังดีทั้งนั้นเลย

พี่กฤษณะกับทนายตั้ม สามารถว่าความในคดีนี้พร้อมกันได้เหรอ?

กฤษณะ ต้องปรึกษาคุณแม่ด้วย เพราะคุณแม่เป็นผู้เสียหายในทางนิตินัย ภาษากฎหมาย ซึ่งคุณแม่มีสิทธิ์มากกว่า  ตอนนี้ผมไม่เห็นใบแต่งตั้งทนาย

พี่ชายมีสิทธิ์มั้ย?

กฤษณะ ในคดีอาญาไม่มีสิทธิ์ แม่มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว แต่ยืนยันว่าคุณแม่และคุณดายศไม่ได้ขัดใจอะไรกันเลย แค่ขาดการประสานงาน ส่วนผมยอมรับว่าเข้ามาทีหลัง ความเชื่อมั่นในตัวคุณดายศ แกก็กลัวเป็นคนของฝ่ายโน้นส่งมา เขาไม่รู้จักผมมาก่อน แต่ก็ขอบคุณผม คุณดายศบอกว่าขอทราบความจริงว่าทำไมมาช่วยทำคดีนี้ ใครแนะนำมา

ที่ทนายษิทราบอกว่าจะเปิดตัวสำคัญ ทำไมถึงคิดว่าคุณดายศสำคัญ?

กฤษณะ ตอนนี้ยังคิดไม่ออก แต่ถ้าอ่านโพสต์คือเหมือนคุณดายศเป็นตัวนำทนายษิทราเข้าไปนำเสนอหลักฐานอะไรต่างๆ เหมือนคุณสันธนะที่เข้าไปคนเดียว แต่ถ้าทางทนายษิทราจะมีคุณดายศที่เป็นทายาทเหมือนกัน ก็ได้เข้าสะดวกหน่อย แต่เบื้องต้นไม่ได้ติดใจอะไร ให้ความเคารพพี่ๆ ทนายทุกท่าน ยินดีและอยากช่วยน้องแตงโมเต็มที่ ส่วนคุณแม่จะอธิบายเรื่องกฎหมายให้คุณแม่เข้าใจ

น้องแตงโมมีเรื่องหนี้สิน เรื่องนี้จะยังไง?

กฤษณะ การที่คุณแม่เป็นผู้จัดการมรดก จะมีอยู่สองทางที่ยื่นได้ คือจ้างทนาย กับยื่นต่อพนักงานอัยการ พนักงานอัยการ ตอนนี้รับเรื่องคุณแม่ไปแล้ว เดี๋ยวคงดำเนินการ ส่วนของเงินที่คุณแม่เป็นผู้จัดการมรดก ตรงนี้ต้องรอศาลสั่งก่อน ตอนนี้ศาลยังไม่ได้สั่ง เจ้าหนี้ก็ยังไม่สามารถมาเรียกร้องกับคุณแม่ได้ ถ้าเจ้าหนี้รู้ว่าคุณแม่เป็นแล้วใน 1 ปีเจ้าหนี้ค่อยเรียกร้องมา แต่ต้องถามว่าหนี้มีเท่าไหร่ สมมติหนี้ 1 ล้าน คุณแม่มี 100 เดียว ก็ต้องจ่าย 100 เดียว แต่ถ้าคุณแม่มี 10 ล้าน ก็ต้องจ่าย 1 ล้าน แต่ตอนนี้ไม่รู้คุณแม่จะเอาทางไหนไปจ่าย