เปิดตัวโปรแกรม “Life Director ผู้กำกับชีวิต (มืออาชีพ)” สร้างสุขภาวะทางปัญญา

สสส. ผนึก 4 ภาคีสร้างเสริมสุขภาพ เปิดตัวโปรแกรม “Life Director ผู้กำกับชีวิต (มืออาชีพ)” สร้างสุขภาวะทางปัญญา “รมว.พม.” ย้ำ ปลุกพลังบวกเยาวชน-เห็นคุณค่าความสุข-มีเป้าหมายในชีวิต สู่ผู้นำขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะยั่งยืน

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ พม. ธนาคารจิตอาสา สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และบริษัท ส่งสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือ 5 องค์กร ปั้นสร้าง โครงการ “Life Director ผู้กำกับชีวิต (มืออาชีพ)” ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม). โดยมีเด็กและเยาวชนจากสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เข้าร่วมโครงการกว่า 200 คน

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า กระทรวง พม. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน สังคม และครอบครัว ให้มีคุณภาพที่เต็มศักยภาพ มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ถือเป็นการสร้างทุนมนุษย์ที่มีคุณค่าและเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาประเทศ กระทรวง พม. ได้ร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย ริเริ่มโครงการ “Life Director ผู้กำกับชีวิต (มืออาชีพ)” เพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงภายในจิตใจ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่จะเติบโตมาเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ให้เด็กไทยมองเห็นคุณค่าและมีความสุขในแบบของตนเอง ผ่านการตระหนักรู้ สะท้อน วิเคราะห์ เข้าใจ และปรับปรุงพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ

“เยาวชนในวันนี้ เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติในอนาคต พม. ได้จัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ 8,778 แห่ง พร้อมสนับสนุนงบประมาณให้สภาเด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง ชุมชน และสังคมในปีที่ผ่านมาจำนวน 4,866 กิจกรรม โดยมีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพ จิตอาสา ป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมชุมชนจำนวน 241,774 คน ดังนั้นหากเยาวชนได้รับการปลูกฝัง และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่มีค่านิยมที่ถูกต้องแล้ว ก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติในอนาคต” รมว.พม. กล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยาวนานต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนยังคงต้องจำกัดการเดินทาง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน ทำให้เกิดความเครียด ทั้งจากการเข้าสังคมกับเพื่อนและครู รวมถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว จากข้อมูลผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย 6,771 คน ปี 2564 โดยยูนิเซฟ ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย พบว่า เด็กและเยาวชนมีความเครียดด้านการเรียนถึง ร้อยละ 70 ที่สำคัญยังพบว่าเด็กและเยาวชนต้องการช่องทางเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการกับความเครียด ถึงร้อยละ 40 สะท้อนให้เห็นว่า เด็กไทยกำลังสูญเสียความรู้สึกถึงเป้าหมายของชีวิต ไม่เห็นความสำคัญของตนเองและผู้อื่น ขาดความตระหนักรู้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึกและการกระทำของตนเอง ซึ่งหากเด็กและเยาวชนไม่ได้รับการดูแลสุขภาพด้านจิตใจที่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว เสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตายในที่สุด

“สสส. มุ่งสร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญาของคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งมีแนวโน้มเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพด้านจิตใจ ที่ผ่านมา สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนานวัตกรรมช่องทางฟื้นฟูปัญหาสุขภาพด้านจิตใจผ่านทางสื่อออนไลน์ “CLUB WELLNESS พื้นที่แบ่งปันพลังใจ” มีผู้เข้าร่วมกว่า 3,400 คน ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขา “Best Social Change Maker Influencer Campaign” จากงาน Thailand Influencer Awards 2021 สะท้อนผลสำเร็จของการขับเคลื่อนงานสุขภาวะทางปัญญาได้อย่างตรงจุด สำหรับการพัฒนาโครงการ “Life Director ผู้กำกับชีวิต (มืออาชีพ)” ครั้งนี้ ถือเป็นกระบวนการอบรมพัฒนาทักษะที่ช่วยสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงจากภายในจิตใจให้เด็กไทย ได้ปลดล็อกปัญหา มองเห็นคุณค่าในตัวเอง มีเป้าหมายในชีวิต มุ่งเป้าหมายให้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นนักสื่อสารสุขภาวะ ที่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีภูมิคุ้มกันต่อความเปลี่ยนแปลง สามารถสร้างสรรค์กระบวนการสื่อสารและเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดครอบครัว ชุมชน และสังคมที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมสุขภาวะอย่างยั่งยืน” ดร.สุปรีดา กล่าว

ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารจิตอาสา กล่าวว่า ธนาคารจิตอาสา ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างพื้นที่เรียนรู้และการจัดการความเครียดของเยาวชน ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมฟังสร้างสุข เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้พัฒนาตนเองเรื่องการฟังอย่างลึกซึ้ง และการมีประสบการณ์ตรงในการทำงานจิตอาสา เพื่อสร้างคุณค่าต่อตนเองและผู้อื่น โดยที่ผ่านมามีเยาวชนผ่านกระบวนการเหล่านี้ไม่น้อยกว่า 4,000 คน ซึ่งโครงการ “Life Director ผู้กำกับชีวิต (มืออาชีพ)” ถือเป็นการทำงานเพื่อสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสังคมสุขภาวะ หากเด็กและเยาวชนได้ฝึกและเพิ่มทักษะเพื่อพัฒนาจิตที่สร้างการเติบโตจากภายในจิตใจ หรือที่เรียกว่า “สุขภาวะทางปัญญา” โดยเฉพาะในเรื่องของความเข้าอกเข้าใจ (empathy) และความเชื่อมโยง (connectedness) ซึ่งเป็นประเด็นที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ จะทำให้เด็กและเยาวชนไทยสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เริ่มต้นจากตนเอง และใช้พลังจากความสนใจสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม

ด้าน นางพจนารถ ซีบังเกิด หรือ โค้ชจิมมี่ ผู้ก่อตั้งบริษัท ส่งสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัทจิมมี่ เดอะ โค้ช กล่าวว่า โครงการ “Life Director ผู้กำกับชีวิต (มืออาชีพ)” จะเป็นการแบ่งปันทักษะไลฟ์โค้ชให้กลุ่มเยาวชนผู้นำจากสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย จำนวน 200 คนจากทั่วประเทศ เป็นการเรียนและอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน – กรกฎาคม 2565 ผ่านการอบรมผ่านระบบออนไลน์ 1 วัน และทำการ Self-Coach ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับตนเองได้จริง หลักสูตรประกอบด้วย 1) Mindset เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นตนเอง สามารถพัฒนาไปสู่ความสำเร็จของตนเองและสังคม 2) Being ผู้เรียนเห็นคุณสมบัติที่ดีของตนเองและเลือกคุณสมบัติที่ดีเป็นตัวนำชีวิตให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการ 3) Higher–Purpose เข้าใจความสำคัญของเป้าหมายและมีความชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตนเอง 4) Wheel of Life ส่วนประกอบและแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตที่จะทำให้ผู้เรียนเห็นว่าชีวิตมีหลายด้าน แล้วเลือกด้านที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลานั้นเพื่อตั้งเป็นเป้าหมาย และ 5) My Journey เครื่องมือจัดระบบความคิดที่จะทำให้ผู้เรียนสร้าง Action Plan เพื่อไปสู่เป้าหมายด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ความสุขประเทศไทย www.happinessisthailand.com