มหาดไทย ทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ ถวายเป็นพระราชกุศล กรมสมเด็จพระเทพ ฯ พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในครอบครัวยากจนและด้อยโอกาสในชนบท
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ณ บริเวณพิธีวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานทอดผ้าป่า พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หัวหน้าคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และประชารัฐภาคเอกชน นางสิริกร ชิวปรีชา ประธานกรรมการบริษัทเทพไทย โปรดัคท์ จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชนเข้าร่วมพิธี โดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์มีเมตตาพิจารณาผ้าป่าและมอบเงินผ้าป่าทั้งหมดจำนวน 3,631,729 บาท คืนแก่กรมการพัฒนาชุมชนเพื่อนำไปสมทบทุนกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มพิธีทอดผ้าป่ามหากุศล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำผู้เข้าร่วมพิธีวางพุ่มดอกไม้ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และลงนามถวายพระพรสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2565
นายสมคิด จันทมฤก อธิบดี พช. กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่าการพัฒนาเด็กนั้น เด็กต้องได้รับการพัฒนาในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และสังคม พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการเรียนรู้ให้ลูกหลานหมั่นศึกษาเรียนรู้ทุกสิ่งรอบตัว สามารถเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพของเด็ก ผู้เป็นอนาคตของชาติได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งกล่าวรายงาน การจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อจัดหารายได้สมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อนำไปช่วยเหลือ เด็กก่อนวัยเรียน ที่ครอบครัวยากจนและด้อยโอกาสในชนบท ได้มอบทุนช่วยเหลือเด็กมาแล้วกว่า 111,960 คน เป็นเงิน 137,576,500 บาท และทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลในกิจการเด็ก ปีละ 1,000,000 บาท โดยการทอดผ้าป่าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการจัดงาน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีคุณูปการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร และผู้ด้อยโอกาส และทรงมีพระมหากรุณารับกองทุนพัฒนาเด็กชนบทไว้ในพระราชูปถัมภ์ฯ โดยพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่อว่า “ กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ” โดยกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ ขับเคลื่อนโดยกรมการพัฒนาชุมชน จึงจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าเพื่อหารายได้สมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ ทั้งในส่วนกลางและจังหวัด 76 จังหวัด ในวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี เป็นที่น่ายินดีและอนุโมทนาบุญเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แต่มีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินทอดผ้าป่า เพื่อสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวนทั้งสิ้น 20,977,452.65 บาท ด้วยพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ หาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยแก่เด็กชนบท ก่อนวัยเรียนตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี ที่ครอบครัวมีความยากจนและด้อยโอกาสเป็นจำนวนมาก ให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เพื่อการพัฒนาแก่เด็กชนบทให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อันเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาชุมชน และพัฒนาประเทศชาติ ต่อไปอย่างยั่งยืน
“กิจกรรมของกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ผ่านมา ได้นำเงินไปช่วยเหลือเด็กแรกเกิดถึง 6 ปีในชนบท ที่มีครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส โดยให้ทุนอุปการะ สนับสนุนอุปกรณ์การเรียนการสอนและเครื่องนุ่งห่ม ส่งเสริมให้มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย อย่างมีคุณภาพ เพื่อเป็นรากฐานการพัฒนาของประเทศต่อไป ทั้งยังได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลในกิจกรรมการพัฒนาเด็ก เป็นประจำทุกปี” อธิบดี พช. กล่าว