วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2563 ณ ห้องประชุม 3003 กรมการพัฒนาชุมชน อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหน้ากากอนามัยให้แก่สภากาชาดไทย จำนวน 35,000 ชิ้น เพื่อใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมี นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย และรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เป็นผู้รับมอบ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน เครือข่าย OTOP เครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้ทำสิ่งที่ดีงามให้กับชีวิตและสังคม ซึ่งในโอกาสนี้ได้รับความกรุณาจากทางสภากาชาดไทยที่ได้ติดต่อมา ซึ่งสภากาชาดไทย ถือเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ที่สำคัญช่วยเหลือชีวิตของพี่น้องคนไทย ที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการจัดหาโลหิต เพื่อที่จะไปช่วยเหลือผู้ที่มีความจำเป็นและมีปัญหาด้านสุขภาพ ในสภาวการณ์นี้เราทราบกันดีว่า มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่า (โควิด-19) ทางสภากาชาดไทยก็ต้องการจะดูแลผู้ที่มีจิตศรัทธาที่ไปบริจาคโลหิตให้ได้รับหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปดูแลสุขภาพของตนเองป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในขณะเดียว กันก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนในสังคมว่า เราได้ป้องกันตัวเองและจะไม่เป็นผู้ที่แพร่กระจายเชื้อเพราะใส่สวมหน้ากากอนามัยแล้ว ผมเองก็รับปากด้วยความเต็มใจ เพราะทราบว่าทางสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน เครือข่าย OTOP เครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และพี่น้องข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนทุกคน ก็มีหัวใจที่อยากจะช่วยเหลือสภากาขาดไทยอยู่แล้ว เนื่องจากเราตระหนักดีว่าการที่มีสภากาชาดไทย จึงทำให้คุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และผมเองก็เชื่อว่าหลายท่านที่เคยใช้บริการโลหิตจากสภากาชาดไทย ไม่ว่าเราจะเข้ารักษาตัวที่จังหวัดใด โลหิต ทุกหยดก็ล้วนแล้วแต่มาจากสภากาชาดไทยทั้งสิ้น
โดยหน้ากากทั้งหมดที่ส่งมอบในวันนี้เกิดจากหัวใจของพี่น้องที่ทั้ง 76 จังหวัด เนื่องจากเราทราบดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้หน้ากาก เราจึงประสานขอความร่วมมือไปในทุกจังหวัด และเป็นความโชคดีของกรมการพัฒนาชุมชน เพราะบุคลากรของเราได้ไปเป็นวิทยากรและนำพาสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกลุ่มโอทอป รวมพลังกันผลิต ตัดเย็บหน้ากากเอาไว้ใช้ในครัวเรือนได้ เรียกว่าไปสอนครู ก และครู ก ก็ได้ไปสอนพี่น้องในหมู่บ้าน ชุมชนให้ตัดเย็บหน้ากากให้ได้ปริมาณที่มากขึ้น และสามารถนำไปจำหน่ายได้ วัตถุดิบบางส่วนก็ไม่ต้องซื้อเนื่องจากมีอยู่แล้ว แต่บางแห่งก็มีการจัดซื้อวัตถุดิบบางส่วนเพื่อให้ได้หน้ากากตามมาตรฐานที่แพทย์แนะนำ นี่ก็เป็นเครื่องยืนยันว่า สภากาชาดไทยเป็นศูนย์รวมจิตใจโดยแท้ อีกทั้งศูนย์บริการโลหิตของสภากาชาดไทย ที่พี่น้องได้เสียสละ และร่วมกันส่งความปรารถนาดีและช่วยเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรของสภากาชาดไทย รวมทั้งทุกท่านที่จะไปบริจาคโลหิตให้ได้รับสิ่งที่ดี ตามที่สภากาชาดไทยได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ โดยหน้ากากอนามัย จำนวน 35,000 ชิ้นครั้งนี้ จะเอาชนะวิกฤตการณ์นี้ไปด้วยกัน เพราะทุกคนเต็มใจที่อยากจะช่วยเหลือ และหากว่าจำนวนนี้ไม่เพียงพอกับความต้องการ ก็สามารถประสานมาเพื่อขอรับหน้ากากได้อีก โดยกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมให้การสนับสนุนจะสมทบให้อีกทันที
คุณจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “ขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้ตอบรับที่สภากาชาดไทยได้แจ้งความประสงค์มาในทันทีที่ทราบว่าเรากำลังขาดแคลน ขอขอบคุณไปยังสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน และเครือข่าย OTOP เครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่ได้ร่วมแรง ร่วมใจกัน ตัวเลขของหน้ากากอนามัยที่ท่านอธิบดีได้แจ้งมา ทำให้พวกเราเกิดกำลังใจที่จะทำหน้าที่ในการจัดหาโลหิตเพื่อนำไปให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็น วันนี้สภากาชาดไทยได้มีโอกาสมารับมอบหน้ากากอนามัยจากท่านอธิบดี สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ คณะทำงาน และทุกท่านที่อยู่ในที่นี้ ในนามของสภากาชาดไทย อยากให้ทุกท่านมั่นใจว่า หน้ากากอนามัยชนิดผ้าที่ทุกท่านได้ร่วมแรงร่วมใจกัน เราจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับงานของสภากาชาดไทย”
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “ในนามของสภากาชาดไทย ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติมีความปลื้มใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่เราได้ทราบว่า คนไทยไม่ทิ้งกันในยามยาก ในขณะนี้ประชาชนมีความหวาดกลัวที่จะออกมาบริจาคโลหิต เราจะทำอย่างไร แม้ในขณะนี้เราจะพยายามรณรงค์ แต่ประชาชนเองก็ยังมีความหวาดกลัวถ้าหากไม่มีหน้ากากอนามัย ประชาชนก็ไม่อยากออกจากบ้าน ดังนั้นที่ผ่านมา เราก็รับบริจาคหน้ากากอนามัย ซึ่งหน้ากากอนามัยเองก็หายาก และเป็นที่ต้องการ แม้มีการบริจาคจากผู้มีจิตกุศลแต่ก็เป็นจำนวนที่ไม่มาก เพียงครั้งละ 500 – 1000 ชิ้น และมีบางครั้งที่ได้รับบริจาค 10,000 ชิ้น แต่เป็นจำนวนน้อย ในจำนวนที่ได้รับบริจาคในวันนี้ คือ 35,000 ชิ้น ยังไม่เคยมีมาก่อน และเป็น 35,000 ชิ้นที่สวยงามมาก ไม่ใช่เพียงลักษณะของหน้ากากอนามัย แต่เพราะเป็นหน้ากากที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่จะกลับไปยังพีน้องประชาชนทั่วประเทศเช่นกัน ในนามของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นอกจากหน้ากาก เราจะได้รับโลหิตด้วย เรามีรถสะอาดพร้อมทีมงานที่แข็งแรง ที่สามารถไปรับบริจาคโลหิตได้ทุกแห่ง”
“ขอเชิญชวนคนไทยทุกท่านร่วมกันบริจาคโลหิตกับสภากาชาดไทย ซึ่งหากหมู่บ้านใด สำนักงานใดมีผู้ใจบุญ ตั้งแต่ 30 คน และต้องการให้รถรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทยไปรับบริจาคที่สำนักงานหรือหมู่บ้าน ทางสภากาชาดไทยก็พร้อมที่จะไปทันที มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบุญต่อชีวิตกับสภากาชาดไทยด้วยกันนะครับ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเชิญชวน.