หากใครได้ดูละคร “ศีรษะมาร” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ก็จะได้เห็นด็อกเตอร์ผู้ปราดเปรื่อง และความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีในการตัดต่อหัวคนให้กับคนไข้ที่เป็นหลานสาวตัวเองอย่าง ปี๋ แต่ใครจะไปรู้ว่า กว่าเจ้าตัวจะเล่นออกมา ก็ต้องทำการบ้านหนักมาก เพราะต้องสวมบทแพทย์สติเฟื่อง แถมยังต้องเรียนรู้ข้อมูลทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ หากมีความก้าวล้ำชีวิตมนุษย์ก็สามารถอยู่ได้ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีได้อย่างแน่นอน แต่จะเป็นอย่างไร วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์ของเขามาฝากกัน
วิลลี่ กล่าว “บอกก่อนว่าบท ดร.ปีติ ค่อนข้างท้าทายเราเหมือนกัน ด้วยความที่ผมไม่ค่อยเล่นบทแนวนี้ พอได้มาเล่นก็มีอะไรชาเลนจ์เรามาก ไม่ว่าจะเป็นการทดลอง การเข้าห้องผ่าตัด ที่ทำเสมือนจริงในการผ่าตัด ที่สำคัญมีทั้งผีดิบ และการต่อหัวเหมือนหนังวิทยาศาสตร์ที่เราชอบดู พอมาเล่นเองก็รู้สึกว่า หากในโลกนี้มีความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ และวิทยาศาสตร์ ก็คงมีการรักษาโรคที่หลากหลาย และมนุษย์ก็อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุยาวนานขึ้น และวงการแพทย์ก็คงจะก้าวล้ำ ในละครเราจะเห็นว่าการก้าวล้ำมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ หรือพลังจิต มันคือการโกงธรรมชาติ มันคือการผจญภัยของพวกเราเลย และที่ต้องเสี่ยงที่สุดคือการทดลองกับหลานสาวที่เรารักมากที่สุด ก็คงเป็นการท้าทายเราในด้านนักแสดง ที่ต้องเล่นอย่างไรให้คนดูเชื่อว่าเราคือดร.ปีติ ที่ต้องผ่าตัด เปลี่ยนหัวจริงๆ พอละครออกอากาศไป กระแสตอบรับดีมากเลยครับ มีคนหลายคนชมว่าเราเล่นเหมือนดร.สติเฟื่องจริงๆ ตัวละครมีอะไรให้เล่นเยอะมากกับบทบาทนี้ ผมสนุกทุกครั้งที่ได้ไปกองถ่าย หากใครดูละครศีรษะมาร ก็คงสงสัยกันไม่น้อยว่าน้ำยาไลฟ์วันมันมีจริงไหม จริงๆมันคงไม่มีจริง หากถามว่าการต่อศีรษะคนจริงๆมันมีจริงไหม ตอนนี้ผมเคยอ่านๆมาบ้างว่ากำลังมีการศึกษาของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ แต่หากถามว่าในอนาคตมันจะมีจริงไหม อันนี้น่าคิดมากเลยครับ อะไรที่ละคร หรือจิตนาการของคนเคยคิดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมือถือ โทรทัศน์ หรือระบบเอไอ อดีตคงยังไม่มี แต่ปัจจุบันมันเกิดขึ้นแล้ว ผมก็คิดว่าไม่แน่อนาคตของเราอาจจะมีความก้าวล้ำเกิดขึ้นในด้านการแพทย์ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน เพราะทุกวันนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ สุดท้ายผมของฝากติดตามละคร ศีรษะมาร ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 8 เรื่องราวกำลังสนุกเข้มข้นทุกๆวัน แถมปี๋กำลังจะเพิ่มดีกรีความร้อนแรง ผมหวังว่าทุกคนจะสนุกและได้สาระจากเรื่องนี้ครับ”