วันที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้แก่สมาชิกลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่มีรายได้ไม่เพียงพอในการชำระหนี้ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม บอร์ดบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้จัดให้มีการประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารกองทุนฯผู้แทนสำนักงบประมาณ และที่ปรึกษากองทุนฯ เพื่อรับฟังรายงานผลการดำเนินงานของกองทุนฯ และหามาตรการเยียวยาแก่สมาชิกลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็นสมาชิกลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งประเภทบุคคลธรรมดาและประเภทองค์กรสตรี ที่กู้ยืมเงินประเภทเงินทุนหมุนเวียนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อประกอบอาชีพ
โดยหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ คือ ต้องเป็นสมาชิกลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มีหนี้หรือหนี้ค้างชำระที่ถึงกำหนดชำระ ในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 และมาแสดงความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือโดยยื่นเรื่อง ณ สำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและติดตามการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอ/สำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร ที่สมาชิกได้ยื่นขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมจากกองทุนฯ ภายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563
การให้ความช่วยเหลือ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะพิจารณาขยายกำหนดระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ยืม (พักชำระหนี้) ให้แก่สมาชิกลูกหนี้ที่มีสิทธิและเข้าหลักเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือเป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยให้เลื่อนวันครบกำหนดชำระหนี้งวดที่อยู่ในห้วงวันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 ไปอีก 12 เดือนโดยไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มจากดอกเบี้ยเดิมที่ต้องชำระในงวดนั้น และให้เลื่อนวันครบกำหนดชำระหนี้ของงวดต่อ ๆ ไปอีก งวดละ 12 เดือนตามลำดับ จนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาโดยให้คิดดอกเบี้ยใหม่ตามจำนวนวันในงวดนั้น ๆ การพักชำระหนี้ตามประกาศนี้ไม่ตัดสิทธิผู้กู้ยืมเงินในการชำระหนี้คืนกองทุนในระหว่างการพักชำระหนี้นั้น โดยจะพิจารณาการขอพักชำระหนี้ของสมาชิกให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องทั้งนี้ สมาชิกกองทุนฯ ผู้มีสิทธิ์ต้องมายื่นด้วยตนเอง เท่านั้น
ซึ่งปัจจุบันมีลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์พักชำระหนี้ จำนวนประมาณ 49,803 โครงการ หรือจำนวน 249,015 คน มีมูลค่าหนี้จำนวนกว่า 4,000 ล้านบาท (4,034,761,335.95 บาท) โดยมาตรการดังกล่าว จะมีผลวันที่ 1 เมษายน 2563