นายกฯ ประกาศ“ดิจิทัลวอลเล็ต” เปิดให้ลงทะเบียนไตรมาส 3 เริ่มใช้จ่ายไตรมาส 4 ผ่าน “ซูเปอร์แอป” อายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่เกิน 8.4 แสนบาทต่อปี เงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท หรือดิจิทัลวอลเล็ต โดย นายเศรษฐา ระบุว่า ในไตรมาส 3/2567 จะเปิดให้ร้านค้าและประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตน และจะเริ่มจ่ายเงินได้ภายในไตรมาส 4/2567 พร้อมยืนยันว่ากระบวนการต่างๆจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นกระบวนการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และรักษาวินัยการเงินการคลัง
ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในส่วนของแหล่งเงินที่ต้องนำมาใช้กับวงเงิน 5 แสนล้านบาท สามารถบริหารจัดการในกระบวนการงบประมาณทั้งหมด คืองบฯ 67 กับ 68 แบ่งเป็น 1.งบฯ ปี 2568 1.52 แสนล้านบาท ได้ขยายกรอบงบประมาณแล้ว 2.ผ่านโครงการของรัฐ 1.72 แสนล้านบาท ใช้กลไก ม.28 ของงบฯ ปี 2568 ให้ ธ.ก.ส. ดูแลเกษตรกร 17 ล้านคนเศษ และ 3.งบฯ ปี 2567 1.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบฯ ปี 2567 เพิ่งเริ่มใช้ ต้องดูว่าจะปรับเปลี่ยนส่วนใดได้บ้าง รวมถึงอาจต้องใช้งบกลาง ซึ่งยืนยันว่าเป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงเงื่อนไขการใช้เงินในโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ดังนี้
1.กลุ่มเป้าหมาย ประชาชน 50 ล้านคน คุณสมบัติ อายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีรายได้พึงประเมินเกิน 8.4 แสนบาทของปีภาษี และมีเงินฝากในสถาบันการเงินต่างๆ รวมกันไม่เกิน 5 แสนบาท
2.เงื่อนไขการใช้จ่าย แบ่งเป็น
2.1 ประชาชนกับร้านค้า ให้ใช้ระดับอำเภอ ให้ใช้กับร้านค้าขนาดเล็กที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น
2.2 ร้านค้ากับร้านค้า ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขเชิงพื้นที่และขนาดของร้านค้า
3.การใช้จ่ายเงิน สามารถใช้ได้หลายรอบ ใช้กับสินค้าได้เกือบทุกชนิด ยกเว้นสินค้าอบายมุข น้ำมัน บริการและออนไลน์ รวมถึงสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดขึ้น
4.จะใช้ผ่านระบบที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ผ่านหน่วยงาน สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เป็น “ซูเปอร์แอปฯ” ของรัฐบาล พัฒนาใช้ใช้จ่ายกับธนาคารอื่นๆ แบบ Open Loop ซึ่งการดำเนินการจะเป็นไปอย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามกฎหมาย
5.ร้านค้าที่สามารถถอนเงินสดได้ ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น
5.1 ภาษีมูลค่าเพิ่ม
5.2 ภาษีเงินได้นิติบุคคล
5.3 ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือก็คือประชาชนผู้ประกอบอาชีพค้าขายที่มีรายได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร ม.40 (8)
ทั้งนี้ ร้านค้าจะถอนเงินสดได้ในการใช้จ่ายรอบที่ 2 เป็นต้นไปเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงการทุจริตและเพิ่มผลกระตุ้นเศรษฐกิจ
6.ระยะเวลาโครงการ ประชาชนและร้านค้าลงทะเบียน ไตรมาส 3/2567 เริ่มใช้ไตรมาส 4/2567
7.มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ โดยมีรอง ผบ.ตร. เป็นประธาน มีผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นกรรมการ นอกจากนั้นยังมีคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีตนเป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดเงื่อนไขรายละเอียด โครงการและระบบให้สอดคล้องตามเงื่อนไข ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประสานงานและประชาสัมพันธ์
“วันนี้คณะกรรมการได้มีมติเห็นชอบในรายละเอียดทุกประเด็นที่ได้นำเรียน และได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ในฐานะเลขานุการและกรรมการ นำมติที่ได้รับความเห็นชอบเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจาณาต่อไปภายในเดือน เม.ย. นี้” นายจุลพันธ์ กล่าว.