เอบีซีนิวส์– วันศุกร์ (28 ก.พ.) รัสเซียประกาศว่าได้ส่งเรือรบที่ล้ำสมัยสองลำไปยังตะวันออกกลางหลังจากการโจมตีในซีเรียซึ่งสังหารทหารตุรกีไปถึง 33 นาย
วิดีโอที่โพสต์บนโซเชียลนั้นเผยให้เห็นเรือรบรัสเซียสองลำคือ Admiral Grigorovich และ Admiral Makarov แล่นผ่านช่องแคบบอสพอรัสซึ่งเป็นจุดเดินเรือสำคัญที่ควบคุมโดยตุรกี เพื่อไปยังชายฝั่งของซีเรีย
แม้ว่าจะได้เห็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ทว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเป้าหมายที่ตรงกันข้ามในซีเรีย โดยมอสโกสนับสนุนประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัลอัสซาด ในขณะที่อังการาสนับสนุนกลุ่มกบฏซีเรียในภาคเหนือ
ตุรกีได้ให้การสนับสนุนทั้งบุคลากรและยุทโธปกรณ์แก่กองกำลังกบฏที่ต้องเผชิญกับการโจมตีจากรัฐบาลซีเรียในฐานที่มั่นฝ่ายต่อต้านสุดท้ายในจังหวัดอิดลิบ การเพิ่มขึ้นของความรุนแรงได้ฉายชัดถึงผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกันของรัสเซียและตุรกีในซีเรียอีกครั้ง
การที่รัสเซียส่งเรือรบซึ่งมีความสามารถในการยิงขีปนาวุธไปยังเป้าหมายทางบกนั้นเกิดขึ้นเนื่องจากตุรกีครุ่นคิดที่จะตอบโต้การสังหารทหารของตนโดยกองกำลังซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียในวันพฤหัสบดี – รวมถึงความเป็นไปได้ที่ตุรกีจะโจมตีในวงกว้างต่อกองกำลังซีเรียในอิดลิบ
ความตึงเครียดทางทหารระหว่างรัสเซีย-ตุรกีปะทุขึ้นในปี 2017 เมื่อตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียที่อ้างว่าล่วงล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของตุรกีในขณะที่กำลังทิ้งระเบิดโจมตีกองกำลังกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากอังการาในตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
ในที่สุดตุรกีก็ถอยห่างจากความขัดแย้งนั้น และลงนามซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของรัสเซีย ตั้งแต่นั้นมาประธานาธิบดีปูติน และแอร์โดกัน ได้แสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดขึ้น โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียคือความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงระหว่างตุรกีกับนาโต้
แต่ตอนนี้ด้วยความตึงเครียดกับรัสเซียที่วาบขึ้นมาอีกครั้ง แอร์โดกันกำลังหันไปทางชาติตะวันตกเพื่อรับการสนับสนุน ตามคำร้องขอของตุรกีนาโต้จะจัดการประชุมเพื่อหารือกับอังการาเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรียในวันศุกร์นี้
