กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยมูลนิธิเกษตราธิการ และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA จัดพิธีเปิด “หลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 6” เพื่อพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ในภาคการเกษตรไทย ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาหลักสูตร วกส. และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานในพิธีฯ โดยมี นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิเกษตราธิการและผู้อำนวยการหลักสูตรฯ นายชวลิต ชูขจร ประธานคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตรกร ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตรและผู้เข้าอบรมหลักสูตร วกส.รุ่นที่ 6 จำนวน 112 คน เข้าร่วมในพิธีเปิดฯ ณ อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภูกรมชลประทาน สามเสนกรุงเทพมหานคร
นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการร่วมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่มีคุณภาพตอบสนองความต้องการของตลาดโลก เพื่อสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรไทย ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้“หลักสูตร วกส. ถือเป็นหลักสูตรอันดับ 1 ด้านการเกษตรของประเทศ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้นำรุ่นใหม่ในภาคการเกษตรไทย โดยคัดเลือกบุคลากรด้านการเกษตรที่สำคัญ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการภาคการเกษตร และภาคประชาชนในรูปแบบ “ประชารัฐ” เพื่อขับเคลื่อนการเกษตรไทยให้ก้าวสู่เกษตรวิถีใหม่ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรสมัยใหม่ มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้พร้อมเป็นผู้นำด้านการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่างยั่งยืน
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิเกษตราธิการและผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) กล่าวว่า หลักสูตร วกส.เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มูลนิธิเกษตราธิการ และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์ – 25 กรกฎาคม 2568 ซึ่งภายในหลักสูตรได้กำหนดเนื้อหาให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงในมิติที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาคการเกษตร 6 ด้าน ที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ 1) Agriculture and Cooperatives Landscape 2) Agricultural Market Mechanisms 3) Technology and Innovation 4) Current Issues for Agriculture Development 5) Research for the Future และ 6) Leadership and Sustainability
โดยความพิเศษของหลักสูตร วกส. รุ่นที่ 6 นี้ ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากรุ่นพี่วกส. ที่มาร่วมต้อนรับและแบ่งปันประสบการณ์อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการบรรยายและการเสวนาจากวิทยากรระดับชั้นนำของประเทศ อาทิ หัวข้อ Foresight for Agriculture and Agribusiness แนวโน้มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของไทยในตลาดโลก : โอกาสและความท้าทาย โดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนอกจากนี้หลักสูตร วกส. ยังมุ่งเน้นการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ผ่านการศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ โดยคัดเลือกแหล่งเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จและเป็นต้นแบบในการพัฒนาภาคการเกษตร
สำหรับผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะได้เปิดโลกทัศน์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจชั้นนำที่ประสบความสำเร็จ กิจกรรม “OPEN HOUSE” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงได้สัมผัสประสบการณ์จริงจากเจ้าของธุรกิจด้านเกษตรที่ประสบความสำเร็จ ถ่ายทอดแนวคิด กลยุทธ์ และบทเรียนที่สามารถนำไปปรับใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแกร่ง สร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตรไทยในยุคดิจิทัล
ด้าน ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตร วกส. ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและนวัตกรรมทางการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเห็นได้จากรุ่นที่ 1 สู่รุ่นที่ 5 หลักสูตร “วกส.” สามารถพัฒนาผู้นำขับเคลื่อนภาคการเกษตรได้ไม่น้อยกว่า 480 คน ร่วมกันพัฒนาข้อเสนอโครงการวิชาการเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร จำนวน 40 เรื่อง ในประเด็นหัวข้อที่ต่างกันไป
ตามกระแสโลกหรือสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมสำหรับภาคการเกษตร ทำให้เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและเกษตรกร ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาภาคการเกษตร และสร้างประโยชน์ในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศไทย อาทิ ผลักดันการแก้ไขกฎหมายด้านการเกษตรเรื่อง ปุ๋ย และผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่มีอุปสรรคการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตร ร่วมถึงเกิดการร่วมมือพัฒนางานวิจัยระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และภาคประชาชน
นอกจากนี้เครือข่าย วกส. ยังมีข้อเสนอในการขอทุนสนับสนุนงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาด้านการเกษตร จัดทำโครงการวิจัยพัฒนาการเกษตรจำนวน 20 โครงการ สามารถแก้ไขปัญหาในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงการต่อยอดสินค้าเกษตรมูลค่าโครงการได้ไม่น้อยกว่า 78 ล้านบาท “ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีผู้นำทางการเกษตรที่สามารถคิดเชิงยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก แน่นอนว่าหลักสูตรวิทยาการเกษตรระดับสูง (วกส.) รุ่นที่ 6 ไม่ได้เป็นเพียงหลักสูตรอบรมทั่วไป แต่ยังเป็นเวทีสำหรับการพัฒนาผู้นำเกษตรไทยรุ่นใหม่ ปลดล็อคปัญหาภาคการเกษตรได้อย่างตรงจุดและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคการเกษตรของประเทศให้เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน” ดร.วิชาญ ผอ. ARDA กล่าวปิดท้าย
