ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นการขยายมาตราการเป็นเฟส 4 ได้หรือไม่แต่ล่าสุดสปปลาวผ่อนปรนมาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19แต่ที่แน่ๆ สนามมวย สถานบันเทิงมีแนวโน้มที่จะกลับมาเปิดอีกครั้ง
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการลดการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในวันนี้ (10 มิ.ย.) จะมีการนำทั้ง 12 กิจการและกิจกรรม ซึ่งอยู่ในโซนสีแดงเข้าสู่การพิจารณาคลายล็อกระยะที่ 4 ซึ่งทุกกิจการและกิจกรรม เช่น สนามมวย สถานบันเทิง ต่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมดที่จะได้รับการผ่อนคลาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกกิจการและกิจกรรม
ขณะเดียวกันจะนำทุกข้อเสนอของทุกกิจการและกิจกรรมมาพิจารณาผ่อนคลายด้วย ซึ่งหากวันนี้พิจารณาเสร็จสิ้นก็จะนำเข้าสู่การประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาหารือด้วยเช่นกัน
ส่วนเรื่องการเปิดสนามบินนั้น พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ระยะเวลาการปิดสนามบินจะครอบคลุมไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาในภายหลัง เช่นเดียวกับการคงอยู่หรือต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยังมีเวลาอยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือกันในสัปดาห์ถัดไป
ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะกรรมการเฉพาะกิจฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมกำลังปรึกษาหารือถึงเรื่องการผ่อนคลายให้สามารถเปิดสนามมวยได้ ซึ่งอาจไม่ใช่การเปิดแบบปกติ โดยจะพิจารณา 2 กรณี คือ ไม่เปิดหรือเปิดแบบไม่ให้มีผู้เข้าชมที่มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเข้าใจนักมวยที่ขาดรายได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะพิจารณา
ทั้งนี้ ที่ประชุมจะมีการเสนอให้พิจารณาทดลองยกเลิกการกำหนดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 23.00-03.00 น. หรือเคอร์ฟิวเป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตตามปกติง่ายขึ้น แต่ให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้ เนื่องจากเป็นสิ่งจำเป็นต่อภาครัฐ และหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึงเพื่อให้สามารถบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพราะบางมาตรการไม่สามารถใช้ในกฎหมายปกติได้