เครือสหพัฒน์ จัดงาน “สหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63” ครั้งแรกของการผนึก 3 แพลตฟอร์ม LAZADA-SHOPEE-JD CENTRAL ขายพร้อมกัน ลดกระหน่ำสูงสุด 80% เสริมทัพ 11 สถาบันการเงินและกองทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ 2-5 ก.ค.นี้
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลได้รณรงค์ให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม เครือสหพัฒน์จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดงานในปีนี้มาเป็น สหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63 เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ อีกทั้งยังสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นิยมการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น
งานสหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63 กำหนดจัดในวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563 เป็นการยกงานสหกรุ๊ปแฟร์ที่เคยจัดที่ไบเทคมาจัดบน http://www.sahagroupfair.com/ โดยจะมีลิงค์จากเว็บไปยัง LAZADA SHOPEE และ JD CENTRAL ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการจำหน่ายสินค้าบน 3 แพลตฟอร์มพร้อมกัน แบ่งสินค้าออกเป็น 7 หมวด คือ Fashion, Lingerie, Health & Beauty, Baby & Toddler, Household, Grocery และ Services & Education มีสินค้ามาจำหน่ายกว่า 100 แบรนด์ กว่า 20,000 SKU อาทิ วาโก้ บีเอสซี แอร์โรว์ ลาคอสท์ แอล (ELLE) เอราวอน กี ลาโรช อองฟองต์ แอ็บซอร์บา ฟาร์มเฮ้าส์ มาม่า มองต์เฟลอ ริชเชส ซื่อสัตย์ เอสเซ้นต์ เปา ซิสเท็มมา คิเรอิคิเรอิ โชกุบุสซึ วาเซดะ บุนกะ ซึ่งสินค้า 7 หมวดนี้ จะมีทั้งสินค้านวัตกรรม สินค้าใหม่ สินค้าขายดี และสินค้า Clearance ที่นำมาลดพิเศษสูงสุดถึง 80% ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค
ในเว็บมีการไลฟ์สดช่วง Flash Sale และการแจกคูปองส่วนลดเพื่อนำไปลดเพิ่มใน LAZADA SHOPEE และ JD CENTRAL ซึ่งทุกบิลที่ซื้อสามารถนำมากรอกข้อมูลชิงรางวัลในเว็บ กว่า 3,000 รางวัล รวมกว่า 9 แสนบาท สำหรับผู้ที่ต้องการสั่งซื้อล่วงหน้าจะเปิดให้มีพรีออเดอร์(PRE SALES) สินค้าใหม่ในวันที่ 27 มิถุนายน–1 กรกฎาคม 2563 เฉพาะที่ LAZADA
นอกจากนี้ ในเว็บยังมีกิจกรรมที่สร้างสีสัน อาทิ แฟชั่นโชว์ เวิร์กชอป กิจกรรมจากดาราและเซเลบริตี้มากมาย การรับสมัครงาน การรับสมัครสมาชิกและสะสมคะแนน His & Her
นอกจากการจำหน่ายสินค้าแบบ B2C ให้กับผู้สนใจทั่วไปแล้ว จะมีการจำหน่ายแบบ B2B ให้กับร้านค้าทั่วไป ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และผู้ที่ซื้อสินค้าไปจำหน่ายต่อ
ในงานนี้ เครือสหพัฒน์ยังได้ร่วมกับสถาบันการเงินและกองทุน 11 แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพื่อให้ส่วนลดเงินสดและเครดิตเงินคืนสำหรับการซื้อแบบ B2C และให้สินเชื่อพิเศษสำหรับการซื้อแบบ B2B ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อได้อีกทางหนึ่ง
“หนึ่งในนโยบายสำคัญของเครือสหพัฒน์ คือ การทำ Digital Transformation เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล การจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบที่สุดของเครือสหพัฒน์ ซึ่งเปิดตัวมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เป็นยุคที่ผู้บริโภคนิยมการซื้อสินค้าทางออนไลน์ และเหมาะกับสถานการณ์ที่ทุกคนควรเว้นระยะห่างทางสังคม” นายธรรมรัตน์ กล่าว