ทุกวันนี้พฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป เราต้องการเวลามากขึ้นความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่คนรุ่นใหม่ก็รักที่จะทำบุญกันมากขึ้นเช่นกัน แน่นอนพฤติกรรมในเรื่องของการทำบุญชั่วโมงนี้จะต้องสอดคล้องกับนโยบาย New Normal แพลตฟอร์ม “แม็คโครคลิก” จึงเข้ามาตอบสนองรูปแบบการดำรงชีวิตของคนรุ่นใหม่โดยผู้ที่ต้องการจะทำบุญสามารถเข้าไปซื้อหาแบบตรงความต้องการของแต่สถานสงเคราะห์ มั่นใจถึงมือผู้รับแน่นอน ในราคาที่เลือกเองได้ พร้อมสามารถเข้าร่วมกิจกรรมส่งมอบได้ด้วย
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผุดไอเดีย “คนไทยใจบุญ” สร้างความเชื่อมั่นในการบริจาคและเพิ่มความสะดวก สอดรับพฤติกรรมใหม่ที่ผู้คนเริ่มหันมาซื้อของบริจาคมากขึ้นด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์เปิดช่องให้คนได้ทำบุญกันแบบ4.0 ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว
โครงการนี้ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึง “บุญ” ร่วมกัน เกิดจากแนวคิดจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 โดย นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวคิดนี้ว่า โครงการ ” คนไทยใจบุญ ” เป็นบริการใหม่ที่เพิ่งเริ่มเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดจากการสรุปข้อมูล และวิเคราะห์พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งแม็คโครมีลูกค้าสมาชิกกว่า 3 ล้านราย มีการวิจัยวิเคราะห์ในเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคกันมากขึ้น โดยในงานวิจัยระบุถึงเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก คือพบว่าหลายคนเริ่มหันมาสนใจการทำบุญ และสนใจการบริจาคการกุศล
โดยสัดส่วนของครอบครัวที่มีการบริจาคเพิ่มขึ้นมากกว่า 96% ของครัวเรือนไทย และมีเม็ดเงินหมุนเวียนเพื่อการบริจาคเพื่อการกุศลถึงกว่า 130,000 ล้านบาท ต่อปี และคนส่วนใหญ่ มักจะบริจาคในช่วงวาระสำคัญของชีวิต เช่นวันเกิด หรือวันสำคัญต่างๆ ซึ่งผู้บริโภคจะเริ่มไม่เน้นเรื่องของการสังสรรค์ แต่จะหันมาสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากขึ้น เช่นในโครงการตู้ปันสุข หรือโครงการอื่นๆ นั่นคือพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปและหันมาเน้นการแบ่งปันสร้างบุญ สร้างกุศลกันมากขึ้น
หลายหน่วยงานเริ่มมีการบริจาคมากขึ้น แบ่งปันสู่สังคม ทุกเดือน ทุกไตรมาส และจากช่วงโควิด-19 สถานสงเคราะห์ เริ่มมีคนเดินทางเข้าไปบริจาคน้อยลง ทำให้ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นปัจจัยแรกของผลกระทบที่อาจจะต้องได้รับการช่วยเหลือมากขึ้น”
แม็คโครจึงมีแนวคิดเกี่ยวกับโครงการการร่วมบุญ ร่วมบริจาค โดยเน้นสร้างความเชื่อมั่นในการบริจาคและเพิ่มความสะดวก สอดรับพฤติกรรมใหม่ที่ผู้คนเริ่มหันมาซื้อของบริจาคมากขึ้น โดยจับมือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สร้างแพลตฟอร์มการสั่งซื้อสินค้าบริจาคผ่านระบบออนไลน์และช่องทางการสั่งซื้อปกติ เพื่อจัดชุดสินค้าที่ตรงตามความต้องการของสถานสงเคราะห์ผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความสะดวกกับการบริจาคมากยิ่งขึ้น โดยเน้นให่ตรงกับความต้องการของสถานสงเคราะห์แต่ละแห่ง เน้นให้เกิดความสะดวก และที่สำคัญคือเน้นย้ำให้เกิดความน่าเชื่อถือในกิจกรรมการทำบุญทำกุศลผ่านโครงการนี้”
จากผลกระทบช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และพฤติกรรมการทำบุญ บริจาคของ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับรู้และเห็นอกเห็นใจในความเดือดร้อนของสังคมกันมากขึ้น และกลายมาเป็นแนวทางการอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ของทาง แม็คโคร อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญ ที่สยามแม็คโครจะได้มีส่วนร่วมในกุศลบุญครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ไปด้วยกัน ผ่านโลกออนไลน์
นางศิริพร กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาการซื้อของบริจาคของคนที่อยากจะทำบุญ บางครั้งก็จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และต้องเดินทางไปเลือกซื้อเอง ซึ่งหลายครั้งจะไม่ตรงกับความต้องการขจองสถานสงเคราะห์แต่ละแห่ง อาจส่งผลให้เกิดของเหลือ หรือ ของที่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก แม็คโครนอกจากจะอำนนวยความสะดวกผู้บริโภคที่อยากบริจาคขจองแล้ว ยังทำหน้าที่ประสานงาน และคัดสรรสินค้าให้ตรงกับความต้องการของสถานสงเคราะห์แต่ละแห่ง เพื่อให้ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง โดยจะจัดเป็นชุดให้บริการในระดับราคาต่างๆ เพื่อให้เหมาะสม และเป็นที่พึงพอใจของทั้งผู้ให้และผู้รับ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริจาค สามารถเข้าร่วมกิจกรรม ในการส่งมอบสิ่งของบริจาคด้วยตัวเองได้ ผ่านการนัดหมาย ซึ่งจะช่วยสร้างควานน่าเชื่อถือให้กับทั้งผู้ให้และผู้รับได้อีกด้วย
สำหรับ จำนวนมูลนิธิฯ สถานสงเคราะห์ ภายใต้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่แม็คโคร เชื่อมโยงการบริจาคในโครงการ คนไทยใจบุญ ปัจจุบันมีจำนวน 10 แห่ง จากแผนดำเนินการจำนวนทั้งหมด 23 แห่งในกทม.และปริมณฑล โดยเริ่มต้นใน 10 แห่งแรก ประกอบด้วย 1. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด 2. สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ บ้านนนทภูมิ 3. สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านเฟื่องฟ้า 4. สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร 5. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต 6. สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด7. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท 8. สถานสงเคราะห์และพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี (ชาย) 9. สถานสงเคราะห์และพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี (หญิง) 10. สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช และจะมีการขยายเพิ่มเติมไปตามแผนการดำเนินการ พร้อมทั้งขยายไปในส่วนอื่นๆ อาทิ มูลนิธิ ,สถานที่ทางศาสนา หรือ กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่มีการขอรับบริจาค โดยจะประสานงานไปยังหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ ยังเปิดรับสำหรับสถานสงเราะห์ มูลนิธิ หรือหน่วยงานที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ ให้สามารถติดต่อมายังแม็คโครได้โดยตรง ซึ่งแม็คโครจะประสานและตรวจสอบก่อนจะให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ภายใต้โครงการ คนไทยใจบุญ ต่อไป
นายวิรัติ วงศ์พรภักดี ผู้อำนวยการฝ่ายแม็คโคร 4.0 กล่าวว่า “โครงการ คนไทยใจบุญ เป็นการเริ่มต้นนับตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 เพื่อช่วยให้ผู้ที่ต้องการบริจาค เข้าใจในความต้องการรับบริจาคของสถานสงเคราะห์ที่แตกต่างกัน ช่วยให้ผู้บริจาคเข้าถึงสถานที่ที่ต้องการบริจาคได้ง่ายขึ้น
จากโจทย์ดังกล่าว เมื่อเรากลับมาดูที่กลยุทธ์ของเรา แม็คโครมีช่องทางการขายและบริการที่ครบทั้งในส่วนออนไลน์ การจัดส่ง การโทรสั่งซื้อ หรือเดินเข้ามาสโตร์ ซึ่งจะช่วยเสริมให้การบริจาคมีความสะดวกมากขึ้น ในส่วนกลยุทธ์ที่ 2 เมื่อเจาะลึกในพฤติกรรมการซื้อ เราพบว่ามีพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยนไป โดยเราเห็นคนบางกลุ่มต้องการแสดงออกในการแบ่งปัน อยากช่วยเหลือ อยากส่งต่อความรักไปสู่ผู้อื่น
และในส่วนของประสบการณ์การบริจาค เราจะช่วยส่งเสริมให้ผู้บริจาคได้เข้าใจในความต้องการที่ถูกต้องของสถานสงเคราะห์นั้น ๆ ได้อย่างถูกต้อง แต่เดิมที่ผู้บริจาคไม่คุ้นเคย และไม่รู้ว่าจะต้องซื้ออะไร อะไรคือสิ่งที่สถานสงเคราะห์นั้น ๆ ต้องการ ทำให้เราสร้างโครงการ คนไทยใจบุญ ขึ้นมา โดยร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มองเห็นปัญหาในทิศทางเดียวกัน จากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยตอบโจทย์ทั้งผู้บริจาคและผู้รับบริจาคได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งจะเห็นว่า ในชุดบริจาคที่เราจัดสินค้าให้ จะแสดงราคาที่ชัดเจนทั้งกลุ่มความต้องการที่ตรงกัน เช่นชุดเครื่องเขียน ชุดเสบียง ชุดฆ่าเชื้อ ทำให้สะดวกในการเลือกซื้อบริจาค
วันนี้เราอยากให้เกิดคุณค่าใน 4 ส่วนที่สำคัญ คือ 1.การมีส่วนร่วมของทั้งผู้บริจาคและสถานสงเคราะห์ กระทรวงฯและแม็คโครเองจะประสานร่วมกัน 2 ความน่าเชื่อถือที่เราพยายามจะทำให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการบริจาคในอนาคต 3.การสร้างคุณค่าในการบริจาคสินค้าที่ตรงความต้องการมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดคุณค่าที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเปาะบางของประเทศไทยได้ 4 การขยายฐานของู้ที่ต้องการบริจาคได้มากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ซื้อไม่ต้องเข้าไปซื้อสินค้าบริจาคกันหนาแน่นในสโตร์ สามารถสั่งซื้อผ่านการโทรหรือออนไลน์ได้อย่างสะดวก
โดยปัจจุบันจะมีสถานสงเคราะห์ ภายใต้ความดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กว่า 10 แห่งในกรุงเทพและปริมณฑลให้เลือกบริจาค และคาดว่าจะมีการเพิ่มอีกราว 13 แห่งเพื่อให้ครบ 23 แห่งและจะขยายให้ครบ 60 แห่งภายในปีนี้ ซึ่งในอนาคตจะมีการร่วมกับกลุ่มสถานสงเคราะห์ในต่างจังหวัด อีกกว่า 150 แห่งทั่วประเทศต่อไป
เราเริ่มทำโครงการ คนไทยใจบุญ นี้มาแล้วกว่า 1 เดือน ซึ่งก็มีผู้เข้ามาบริจาคมากขึ้น โดยสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเข้าไป เพื่อดูว่าสถานสงเคราะห์ไหน มีชุดบริจาคอะไรบ้างที่เหมาะกับสถานที่นั้น แล้วทำการกดสั่งได้อย่างสะดวก แล้วผู้บริจาคก็สามารถเดินทางไปที่สถานสงเคราะห์ที่เลือก เพื่อทำการส่งมอบของที่ส่งให้สถานที่นั้น ๆต่อไป
ซึ่งหากผู้บริจาคไม่สะดวก สามารถให้ทางแม็คโครทำการส่งมอบให้กับสถานสงเคราะห์นั้น ๆ ได้เลย นอกจากนี้ภายใน 15 วัน สถานสงเคราะห์นั้นจะมีเอกสารขอบคุณ เพื่อยืนยันการส่งมอบให้กับลูกค้า นับเป็นการสร้างคุณค่าให้กับการบริจาคให้เกิดความน่าเชื่อถือ ผ่านการคัดกรองของแม็คโครและกระทรวง พม. ที่ดียิ่งขึ้น
เราพยายามสร้างช่องทางการบริจาคที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งในวันนี้เรายึด กระทรวง พม. เป็นหลักในการตอบโจทย์ความต้องการบริจาคเป็นหลัก ซึ่งก็จะมีการขยายครอบคลุมพื้นที่การบริการในส่วนของบริจาคที่มีประสิทธิภาพต่อไป”
“โครงการคนไทยใจบุญ” โดย บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จึงนับเป็นโครงการดีๆ ในห้วงเวลาแห่งการเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สามารถเข้าถึงการสร้าวงบุญสร้างกุศล และการแบ่งปันร่วมกันของคนในสังคม ได้แบบง่ายๆ อีกทั้งยังมีเรื่อง “ความน่าเชื่อถือ” ซึ่งถือเรื่องสำคัญของโครงการนี้
โดยผู้สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถคลิปเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ makroclick1.com เพื่อเลือกซื้อหาข้าวของที่จะนำไปบริจาค ซึ่งทั้งสะดวก ง่ายดาย และยังสามารถดกำหนดโปรแกรมค่าใช้จ่ายได้ตามต้องการอีกด้วย