“ยอดเขาเทวดา”..สวนสวรรค์แห่งพุเตยที่สองเท้าก้าวไปถึง

“ผู้พิชิตยอดเขาเทวดา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้จะต้องเดินเท้าจนกล้ามเนื้อขาแข็ง แต่เมื่อเห็นทัศนียภาพของทะเลหมอกและไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วยอดเขา ก็ทำให้ลืมความเหนื่อยล้าที่มีไปอย่างสิ้นเชิง”

ใกล้จะได้หยุดพักผ่อนกันยาว ๆ หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้หยุดชดเชยเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2563 ในวันที่ 4 และ 7 กันยายน 2563 เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน

ทริปนี้ขอแนะนำสำหรับผู้ชื่นชอบสัมผัสกับธรรมชาติ ชมความงดงามหลากหลาย ตื่นตากับทะเลหมอกบนยอดเขาเทวดา ณ อุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
“อุทยานแห่งชาติพุเตย” อุทยานแห่งชาติหนึ่งเดียวของ “จังหวัดสุพรรณบุรี” ซึ่งมีขุนเขารายล้อมและอุดมไปด้วยพืชพรรณ สัตว์ป่ามากมาย ไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ “ป่าสนสองใบ” ที่มีอยู่เพียงกลุ่มเดียวในภาคกลาง และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง

สภาพป่าโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติพุเตย เป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ประกอบด้วย ป่าสนสองใบธรรมชาติ ป่าดงดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรังผสมป่าดิบแล้ง พรรณไม้ที่สำคัญได้แก่ นอกจาก “สนสองใบ” แล้ว ยังมี เหียง พลวง แดง ชิงชัน ประดู่ มะค่าโมง ไผ่ป่าต่าง ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำและแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ นอกจากจะมีความหลากหลายของพรรณไม้แล้ว สัตว์ป่าในพื้นที่ก็มีอยู่ชุกชุมเช่นเดียวกัน เช่น เก้ง ชะนี ลิงลมหรือนางอาย งูจงอาง งูเห่า หมูป่า อีเห็น และลิงชนิดต่าง ๆ ก็มีโอกาสพบเห็นได้

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น แม้จะไม่มีบ้านพัก แต่มีลานกางเต็นท์และห้องน้ำไว้รองรับ และกำหนดจุดบริการนักท่องเที่ยวบริเวณลานจอดรถ มีเครื่องนอนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จำนวนหนึ่ง ไว้บริการนักท่องเที่ยวเช่าไปใช้ได้ แต่ด้วยความห่างไกลจากชุมชนเมือง ทำให้ห่างไกลจากร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ นักท่องเที่ยวควรตระเตรียมของใช้ที่จำเป็น รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มมาให้พอเพียง รวมถึงเครื่องกันความหนาวเย็น เนื่องจากอากาศยามค่ำคืน อุณหภูมิจะลดต่ำมาก

สำหรับยามค่ำคืน เมื่อพักผ่อนอิ่มเอมกับมื้อเย็นแล้ว ความมืดมิดก็ปกคลุมไปทั่วผืนป่า ไร้แสงไฟส่องสว่างจากชุมชน ทำให้สามารถมองเห็นหมู่ดาวระยิบระยับเต็มผืนฟ้า เป็นที่นิยมสำหรับนักถ่ายภาพที่จะมารอคอยจนดึกดื่น เพื่อที่เก็บภาพ “ทางช้างเผือก” ที่สวยงามไว้เป็นที่ระลึก
กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมในช่วงเช้าวันใหม่นั้น “ยอดเขาเทวดา” เป็นไฮไลท์สำคัญ

โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าขึ้นไปชมแสงแรกของวันบนยอดเขา ณ ความสูง 1,123 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง พร้อมสัมผัสทะเลหมอก และทัศนียภาพอันสวยงามของป่าอนุรักษ์ในผืนป่าตะวันตก ได้ถึง 3 พื้นที่ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี และอุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี

แต่ก่อนจะถึงยอดเขานั้น ต้องผ่านทางเดินซึ่งมีความลาดชันต่อเนื่อง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเส้นทางไปจนถึงจุดหมาย ระยะทางประมาณ 900 เมตร ซึ่งอุทยานแห่งชาติฯ ได้พัฒนาเส้นทางให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยยิ่งขึ้น ให้เป็น “เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดเขาเทวดา” ในโครงการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ทั้งบันได ราวจับ จุดพัก และป้ายสื่อความหมายให้ความรู้ต่าง ๆ
ข้อแนะนำ แม้จะมีระยะทางเพียง 900 เมตร แต่เป็นช่วงทางเดินที่ลาดชันมาก และต่อเนื่องตลอดเส้นทาง จึงไม่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว รวมถึงเด็กเล็ก ไม่สมควรปล่อยให้ใช้เส้นทางดังกล่าวโดยไม่มีผู้ควบคุมดูแล

ทั้งนี้ ผู้พิชิตทั้งหลายจะมาตั้งต้น เตรียมตัวขึ้นยอดเขาได้ ณ ลานกางเต็นท์ตะเพินคี่ ซึ่งจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ สามารถเข้าถึงได้ 2 วิธี คือ เดินเท้าลุยป่าขึ้นไป กับการนั่งรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร

“ผู้พิชิตยอดเขาเทวดา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้จะต้องเดินเท้าจนกล้ามเนื้อขาแข็ง แต่เมื่อเห็นทัศนียภาพของทะเลหมอกและไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วยอดเขา ก็ทำให้ลืมความเหนื่อยล้าที่มีไปอย่างสิ้นเชิง”

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง อย่าง น้ำตกตะเพินคี่น้อย ป่าสนสองใบธรรมชาติ หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย รอคอยให้นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ และรักการผจญภัย เดินทางเข้ามาชื่นชม

นอกจากยอดเขาเทวดาแล้ว อุทยานแห่งชาติพุเตย ยังมี “ศาลเลาดาห์” อนุสรณ์สถานที่รำลึกถึงเหตุการณ์ผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมเครื่องบินสายการบินเลา-ดาห์แอร์ ประสบอุบัติเหตุตกลงในพื้นที่ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2534 ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่มีซากเครื่องบิน และศาลเพียงตา เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น อีกทั้งยังมีจุดชมทิวทัศน์ใกล้เคียง สามารถชมดวงอาทิตย์ขึ้นได้อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติพุเตย มีสภาพอากาศค่อนข้างร้อนในช่วงต้นปี และมีฝนตกชุกตลอดปี โดยช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม จะมีปริมาณน้ำตกมาก เนื่องจากฝนตก สภาพป่าชื้นแฉะและเละเป็นหลุมลึก จึงจำเป็นต้องใช้ยานพาหนะขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อที่จะตะลุยป่าอุทยานแห่งชาติพุเตย นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบสภาพอากาศและสภาพเส้นทางกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก่อนเดินทาง เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัย และมีความสุขกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หนึ่งในอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย อย่างอุทยานแห่งชาติพุเตย ดินแดนทะเลหมอกแห่งภาคกลาง จังหวัดสุพรรณบุรี (ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม : www.dnp.go.th)