กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย น้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ระยะที่ 2 สร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครัวเรือน
เมื่อสิ้นสุดโครงการในระยะแรก สามารถช่วยให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการกว่า 12.5 ล้านครัวเรือน ประหยัดเงินในการซื้อผักไป 50 บาท/วัน/ครัวเรือนทั้งหมดคิดเป็น 600 ล้านบาท/วัน 18,000 ล้านบาท/เดือน และสามารถประ หยัดได้ถึง 200,000 ล้านบาท/ปี หากเหลือจากการปลูกทานเองก็สามารถเก็บขายได้
นอกจากการลดรายจ่ายแล้ว ประชาชนยังได้บริโภคผักที่ปลูกเอง มีความปลอดภัย มีกิจกรรมในครัวเรือนร่วมกัน และสังคมก็เกิดความรัก ความสามัคคี เพราะผักที่เหลือจากการรับประทานในครัวเรือนก็นำมาแบ่งปันกัน
หลังประกาศความสำเร็จ ปลูกผักสวนครัว ระยะที่ 1 เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร กรมการพัฒนาชุมชนจึงเดินหน้าขับเคลื่อนต่อเนื่อง ระยะที่ 2 ระหว่าง 1 กรกฎาคม – 5 ธันวาคม 2563 เพื่อเป้าหมาย 5 ประการสำคัญ ได้แก่ “ความต่อเนื่องคือพลัง” ส่งเสริมการปลูกพืชผักอย่างต่อเนื่อง และปลูกเพิ่มเติมรวม 10 ชนิด “ทำเป็นบ้าน สานเป็นกลุ่ม” ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มปลูกพืชผักประจำครัวเรือน เพื่อบริหารจัดการผลผลิตส่วนเกินให้มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต “ชุมชนสีเขียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” สร้างจิตวิญญาณรักสิ่งแวดล้อมและสร้างชุมชนสีเขียว “จากวัฒนธรรม สู่นวัต กรรม” ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารและของใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวันจากพืชผักอาหารรักษ์สุขภาพ และ “ชุมชนเกื้อกูล เพิ่มพูนสามัคคี วิถีพอเพียง” เกิดชุมชนเกื้อกูล สามารถดูแล ช่วยเหลือ และแบ่งปัน จัดตั้งศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์หรือต่อยอดในรูปแบบอื่นๆ
การขับเคลื่อนครั้งนี้มุ่งหวังให้เกิดความมั่นคงทางอาหารอย่างแท้จริงในทุกชุมชนทั่วประเทศ ทำให้พี่น้องประชาชนมีพืชผักปลอดภัยไว้กินเองและแบ่งปัน รวมถึงขยายผลต่อยอดสร้างรายได้ และสิ่งสำคัญคือ เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับโภชนาการ ส่งเสริมการเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนในประเทศไทยของเรา