กกท.ปลุกกระแสกีฬาสนุกเกอร์ จัดงาน “36 ปี “ต๋องฟีเวอร์” The Snooker Legend” ดึงอดีตนักสนุกเกอร์มือ 3 ของโลก “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่มีความสนใจในการเป็นนักกีฬาสนุกเกอร์อาชีพ ลบภาพกีฬาเพื่อการพนัน หันมาสร้างฮีโร่คนต่อไป พร้อมโปรโมท “พิพิธภัณฑ์กีฬาแห่งชาติ” หวังดึงเยาวชนเข้าชมผลงานสุดยอดนักกีฬาไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จุดประกายการเป็นยอดนักกีฬาในอนาคต
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากีฬาของชาติ ภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดังนั้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ประวัติ และผลงานความสำเร็จของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” อดีตนักสนุกเกอร์มือ 3 ของโลก ให้เป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย รวมทั้งคนรุ่นใหม่ ให้สนใจในกีฬาสนุกเกอร์อาชีพ และปฏิบัติตนเพื่อประโยชน์ต่อสังคม
โดยมี “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” เป็นแบบอย่างที่ดี อีกทั้งยังจะได้เข้ามาสัมผัสกับฮีโร่ในดวงใจของตัวเองและได้รู้ถึงที่มาก่อนจะก้าวมาเป็น “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” จะต้องผ่านอุปสรรค ผ่านร้อนผ่านหนาวมายากเย็นอย่างไร จึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ประวัติและผลงานความสำเร็จของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” อดีตนักสนุกเกอร์มือ 3 ของโลก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย ต่อไป
สำหรับการจัดงาน “36 ปี “ต๋องฟีเวอร์” The Snooker Legend” เป็นไปตามวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ประวัติผลงานความสำเร็จของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” อดีตนักสนุกเกอร์มือ 3 ของโลกให้เป็นแบบอย่าง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย ที่สนใจในกีฬาอาชีพและปฏิบัติตนเพื่อประโยชน์ต่อสังคมโดยมี “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” เป็นแบบอย่างที่ดี รวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมโดยการเชิญชวนให้เยาวชน ประชาชน รวมทั้งแฟนคลับของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ร่วมพบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน ตลอดจนเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์กีฬาแห่งชาติ ของ กกท. ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อกีฬาอาชีพของการกีฬาแห่งประเทศไทย
โดยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ให้การต้อนรับนายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” หรือ “นายรัชพล ภู่โอบอ้อม” อดีตนักสนุกเกอร์มือ 3 ของโลก ในโอกาสที่ได้เดินทางมามอบไม้คิวส่วนตัวที่ใช้ในการแข่งขัน พร้อมกับเสื้อกั๊กที่ใช้ลงแข่งขันมาอย่างยาวนาน ให้กับพิพิธภัณฑ์กีฬาแห่งชาติ เพื่อนำมาเก็บไว้เป็นเกียรติประวัติให้กับ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” โดยหวังให้แฟนๆกีฬาชาวไทย ได้เข้ามาเยี่ยมชมประวัติฮีโร่ของประเทศที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ณ พิพิธภัณฑ์กีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย
ด้าน นายรัชพล ภู่โอบอ้อม หรือ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” กล่าวว่า ตนมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ทาง กกท. เลือกตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวงการสนุกเกอร์ และวงการกีฬาอาชีพ เพื่อให้เยาวชนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเป็นนักกีฬาอาชีพ ซึ่งหากเยาวชนคนไหนต้องการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาใดก็ตาม ก็อยากให้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ เอาจริงเอาจังกับสิ่งที่เลือก ซึ่งการทุ่มเทสามารถทำได้ควบคู่ไปกับการเรียนการศึกษา ไม่จำเป็นต้องทิ้งการศึกษาเพื่อมาเอาดีด้านกีฬาแต่เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ยังต้องการแรงสนับสนุนจากภาครัฐ และภาคเอกชน ช่วยเหลือในเรื่องของสวัสดิการนักกีฬาอาชีพให้มากขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นความอยากเป็นให้กับเยาวชนที่มีความสนใจด้านกีฬา ตลอดจนการลบภาพของกีฬาสนุกเกอร์ ที่คนมักมองเป็นเรื่องการพนัน ซึ่งแท้จริงแล้วกีฬาสนุกเกอร์ก็ไม่ต่างจากกีฬาชนิดอื่น ที่สามารถยึดเป็นอาชีพได้ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและประเทศชาติได้ หากมีการทุ่มเทแรงกายแรงใจ และฝึกซ้อมอย่างถูกต้อง ก็สามารถก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียง และสร้างฐานะได้จริง
ทั้งนี้ “รัชพล ภู่โอบอ้อม” หรือชื่อเดิมว่า “วัฒนา ภู่โอบอ้อม” ฉายา “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ “เจมส์ วัฒนา” (James Wattana) เป็นนักสนุกเกอร์อาชีพชาวไทย โดยมีรูปแบบการเล่นที่รวดเร็วและแม่นยำมาก ช่วงที่ต๋องสามารถทำผลงานได้ดีนั้นอยู่ในช่วงกลางทศวรรษของปี 90 โดยสามารถคว้าแชมป์รายการแข่งขันรายการอาชีพ รวมถึงการผ่านเข้ารอบลึกๆรายการสำคัญๆมากมาย จนพาอันดับโลกของตัวเองขึ้นสูงสุดคืออันดับที่ 3 ของโลก ในช่วงฤดูกาลปี 1994/95 โดยเป็นรองเพียง “สตีเฟน เฮนดรี้” และ “สตีฟ เดวิส” เท่านั้น นอกจากนี้ต๋องยังเป็นนักสนุกเกอร์คนที่ 8 ของโลกที่สามารถทำเงินรางวัลได้มากกว่า 1 ล้านปอนด์ ปัจจุบันทำรายได้ทั้งหมดจากการแข่งขันอาชีพ 1.75 ล้านปอนด์ โดยช่วงนั้น “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ถือเป็นผู้ปลุกกระแสให้คนไทยหันมาสนใจในกีฬาสนุกเกอร์ จนปัจจุบันประเทศไทยมีการแข่งขันสนุกเกอร์ระดับอาชีพและระดับเยาวชนมากมายหลายรายการ