น่าน เมืองท่องเที่ยวทางเหนือที่หลายคนให้สมญานามว่า “จิ๋วแต่แจ๋ว” หากยังไม่เคยมาก็ตั้งใจว่าจะต้องมาน่านให้ได้สักครั้ง คนที่มาแล้วก็อยากมาอีกซ้ำ ๆ เรื่อย ๆ บ่อย ๆ เพราะความเงียบสงบ อบอุ่น แฝงด้วยความงดงามทั้งทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และธรรมชาติอย่างครบครัน และที่สำคัญสาธุชนทั้งหลายปรารถนาที่จะเดินทางเพื่อมาสักการะศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดน่านเพื่อขอพร และความเป็นสิริมงคลชีวิต น่านจึงเป็นสถานที่ที่สร้างความประทับใจ ได้บุญ และประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางได้เสมอ
“แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง” คำขวัญประจำจังหวัดน่านกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้นักท่องเที่ยวใช้วางแผนทริปเที่ยว หากสามารถแพลนเที่ยวได้ตรงกับช่วงเวลาที่จัด “ประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน” ก็ถือเป็นโชคดีของนักท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัสประเพณีเก่าแก่สืบต่อกันมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาลอย่างใกล้ชิด โดยแต่ละปีจะกำหนดจัด ณ จุดต่าง ๆ ตลอดแนวริมแม่น้ำน่าน
ส่วน “งาช้างดำ” นั้น เป็นวัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่าน เป็นสมบัติที่ตกทอดมาจากเจ้าผู้ครองเมืองน่านหลายชั่วอายุคนซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัดน่าน และไม่ควรพลาด อุโมงค์ลีลาวดี ซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทมอยู่บริเวณใกล้ๆ กัน สัมผัสความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเป็นแถวเรียงรายแผ่ขยายกิ่งก้านโค้งเข้าหากัน ราวกับอุโมงค์ต้นไม้ยิ่งใหญ่อลังการ เหมาะกับการเก็บภาพ ถ่ายรูปสวย ๆ เช็คอิน และหากถามว่าน่านมีจุดขายเรื่องเกษตรหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า “ส้มสีทอง” นั่นไง คือของฝากที่ควรซื้อติดไม้ติดมือกลับไป ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่เปลือกสีทองอร่าม มีรสชาติหอมและหวานให้ผลผลิตหนาแน่นช่วงปลายปี
คราวนี้ก็ถึงเวลาของสายบุญกันบ้าง แน่นอนว่า วัดภูมินทร์ และ พระธาตุแช่แห้ง คือเป้าหมายสำคัญที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนถิ่นล้านนา ดินแดนวัฒนธรรม สำหรับ วัดภูมินทร์ นั้น นับเป็นแลนด์มาร์คอันดับหนึ่งของน่านก็ว่าได้ กับการค้น หาภาพจิตรกรรมฝาผนัง “กระซิบรักบันลือโลก” หรือภาพ “ปู่ม่าน ย่าม่าน” ภายในอุโบสถ แต่ที่ดีเลิศไป
กว่านั้นคือการได้สักการะกราบขอพรพระประธานจตุรทิศปางมารวิชัย 4 องค์ ว่ากันว่าจะมีอยู่เพียงทิศเดียวเท่านั้นที่หน้าองค์พระประธานจะมีลักษณะยิ้มแย้มมากที่สุด และอีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ พระธาตุแช่แห้ง ซึ่งชาวเมืองล้านนามีความเชื่อกันว่าการได้เดินทางไปสักการบูชากราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุแซ่แห้ง หรือชาวล้านนาจะเรียกกันว่า การชูธาตุแล้วนั้น จะทำได้รับอานิสงค์อย่างแรงกล้าทำให้ชีวิตอยู่ดี มีสุข ปราศจากโรคภัยต่าง ๆ หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
นอกจากนั้นยังมีสถานที่ชมสถาปัตยกรรมอันวิจิตรและเข้าไปไหว้พระขอพรอีกมากมาย เริ่มต้นเอาฤกษ์เอาชัยกันที่ศาลหลักเมือง และวัดมิ่งเมือง ต่อด้วย วัดศรีพันต้น เด่นด้วยสีทองระยิบระยับ กับ จิตรกรรมปูนปั้นที่สวยงาม โดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันได และยังมีสถานที่ให้ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมวิวเป็นของแถม อย่าง วัดภูเก็ต ตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้หลายคนหลงใหลไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ อันเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา” อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวน่าน เช่นเดียวกับ วัดศรีมงคล ที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางเพื่อขึ้นไปชื่นชมความงามของวิหารหลวงที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง สลับกับทัศนีย ภาพที่สวยงาม มองเห็นทุ่งนาเขียวขจี และทิวเขาของดอยภูคาเรียงรายสลับซับซ้อน และที่ควรค่าแก่การไปสักการะอย่างยิ่งเพื่อเป็นสิริมงคลชีวิต คือ วัดพระธาตุเขาน้อย ซึ่งเป็นองค์พระธาตุได้รับอิทธิพลศิลปะพม่าผสมล้านนา ตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรืออีกหนึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน อย่าง วัดพระธาตุช้างค้ำ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยเจดีย์รูปปั้นช้างปูนปั้นเพียงครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ซึ่งได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงดงามทางศิลปะด้วยเช่นกัน
และอย่าลืมว่า น่านก็มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่โดดเด่นไม่แพ้กัน สถานที่ต้องไปให้ได้ คือ บ่อเกลือสินเธาว์ แหล่งผลิตเกลือภูเขาที่มีเพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น และมีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปีโดยชาวบ้านยังคงสืบ ทอดภูมิปัญญาการทำเกลือโบราณไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาเรียนรู้ ทดลองทำ และชอปปิ้งผลิตภัณฑ์กลับไปได้ และถ้ายังอยากจับจ่ายใช้สอยต่อ ก็ต้องแวะซื้อของพื้นเมืองที่ ลำดวนผ้าทอ โดยเฉพาะผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหลลายโบราณ ชื่อดังแห่งอำเภอปัว หากต้องการสัมผัสตัวตนของคนน่าน ต้องไปเดิน ถนนคนเดินเมืองน่าน รับรองว่าต้องได้ของที่ระลึกทำให้นึกถึงเมืองน่าน ของแฮนด์เมดต่างๆ รวมไปถึงของอร่อยเมืองน่านอย่างแน่นอน
การเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดน่านสามารถไปได้ด้วยตนเองก็จริง แต่สำหรับคนที่ต้องการจะไปช่วงปลายปีนี้ ต้องทำใจยอมรับว่าการแพลนเที่ยวกันเองนั้นยุ่งยากมากกว่าเดิม ทั้งเรื่องที่พักกับการอัพราคาขึ้นเป็นเท่าตัว และอาจไม่ได้ที่พักดังที่ตั้งใจไว้ เพราะใคร ๆ ก็ต่างมุ่งเที่ยวเหนือสัมผัสลมหนาวกันทั้งนั้น หรือเรื่องการเดินทาง ตั๋วเครื่องบินก็แพงขึ้น การเดินทางภายในจังหวัดจำเป็นต้องใช้คนในพื้นที่ เพื่อทำให้สามารถเที่ยวได้ครบตามแพลน และปลอดภัย ไม่ทำให้หงุดหงิดกังวลใจ
ทางที่ดีแนะนำว่าควรไปกับบริษัทนำเที่ยวที่มีประสบการณ์และเข้าใจนักท่องเที่ยวจริง ๆ เลยดีกว่า ซึ่งเร็ว ๆ นี้ Happy Experience ได้จัดทัวร์แลนด์มาร์คของเมืองน่านแบบครบจบในทริปเดียว 3 วัน 2 คืน ในวันที่ 17-19 ธันวาคมนี้ พร้อมพาทุกคนไหว้พระขอพร เดินตามรอยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สัมผัสกับวิถีชีวิต อาหารพื้นเมืองต้นตำรับอาหารเหนือตระกูลเจ้า เต็มไปด้วยความปลอดภัย ได้มาตรฐานแบบนิว นอร์มัล ตลอดการเดินทาง สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-113-1919 หรือที่ Line : @happyexperience
จะเที่ยวทั้งที่ ต้องเลือกที่ความสบายใจ เพราะประสบการณ์ที่ได้จากการเดินทาง ควรจะมีแค่ความพึงพอใจและความประทับใจไม่รู้ลืมเท่านั้น