ซับคอนไทยแลนด์ งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนและจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายอันดับต้นๆ ที่เหมาะแก่การเป็นคู่ค้าในภาคอุตสาหกรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยนโยบายที่ชัดเจนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ให้การส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่มุ่งเน้นการส่งเสริม ด้านงานวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรมใหม่ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร ภาคการบริการ และการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมด้วยการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนการเติบโตด้านการลงทุนในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสนับสนุนหรืออุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต
นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน (กพช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า การจัดงานซับคอนไทยแลนด์ในปีนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมสนับสนุนในประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับคู่ค้าระดับโลก เพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยปีนี้งานซับคอนไทยแลนด์ได้มีพันธมิตรใหม่ ได้แก่ กลุ่ม FACTORY NETWORK ASIA ได้เชิญบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนชาวญี่ปุ่นทั้งบริษัทผู้ซื้อและผู้ขายชาว เข้าร่วมงานจำนวน 150 ราย จากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในการพัฒนาของไทย (New S-Curve) อาทิ อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมยานยนต์เพื่ออนาคต อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ เป็นต้น เข้ามาร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เป็นปีแรก “การผนึกกำลังครั้งนี้จึงเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทั้งสองประเทศ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับกลุ่มผู้ซื้อที่มีจากหลายประเทศทั่วโลกที่ได้รับคำเชิญจากบีโอไอ คาดการณ์ว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถเพิ่มยอดการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย และผู้ซื้อจากประเทศต่างๆ ได้ไม่น้อยกว่า 10 ถึง 15%” นางสาวซ่อนกลิ่นกล่าว
ทั้งนี้ การจัดงานซับคอนไทยแลนด์ ในปี 2019 ที่ผ่านมา มียอดการจัดคู่ธุรกิจทั้งสิ้น 8,029 คู่ คิดเป็นมูลค่า 14,098 ล้านบาท มั่นใจว่าหลังจากสิ้นสุดการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2020 ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นผู้นำศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมระดับโลก (Global sourcing destination) คาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจภายในงานถึง 9,000 คู่ มีมูลค่าการเชื่อมโยงมากกว่า 16,000 ล้านบาท
มร.โยอิจิ อินุอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟคทอรี เน็ตเวิร์ค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Factory Network Asia เป็นกลุ่มบริษัทธุรกิจด้านการบริการจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ เว็บไซต์ นิตยสาร FNA U-Machine และงานจับคู่ธุรกิจ ซึ่งในปีนี้มีกว่า 150 บริษัทในเครือข่ายมาเข้าร่วม โดยการเข้าร่วมงานซับคอนไทยแลนด์ในปีนี้มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของ บริษัทอินฟอร์มาฯ ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีการทำงานอย่างมืออาชีพ อีกทั้งเรามองเห็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจากงานซับคอนไทยแลนด์ ที่มีผลงานการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ผลิต และ ผู้ซื้อ เติบโตก้าวกระโดดทุกปีด้วยศักยภาพในการเชิญบริษัทผู้ผลิตจากประเทศต่างๆมาร่วมงาน โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในกลุ่มของเรา FACTORY NETWORK ASIA ได้พบปะกับผู้ประกอบการชาวไทย และได้มีโอกาสจับคู่ธุรกิจกันเองภายในงานอีกด้วย มั่นใจว่าการเข้าร่วมงานซับคอนไทยแลนด์ของกลุ่ม จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในการจัดงานแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ที่ก่อให้เกิดสายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แน่นแฟ้น และยั่งยืน ระหว่างไทยกับ ญี่ปุ่น อย่างแน่นอน
นางสุกัญญา อมรนุรัตน์กุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า การจัดงาน อินเตอร์แมค – เอ็มทีเอ เอเชีย 2020 ครั้งที่ 37 ซึ่งเป็นการจัดงานคู่ขนานไปกับงานซับคอนไทยแลนด์ ปีนี้ผู้มาร่วมงานจะได้มีโอกาสอัพเดทเทรนด์การผลิตด้วยระบบอัจฉริยะควบคู่ไปด้วย ซึ่งไฮไลท์สำคัญในปีนี้ คือ โซน iAR – Industrial Automation and Robotic show 2020 พื้นที่จัดแสดงสายการผลิตหลากหลายมิติที่ก้าวหน้าด้วยระบบอัตโนมัติ พร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะที่โชว์การผลิตแบบเรียลไทม์ จำลองสถานการณ์จากโรงงานผู้ผลิตจริง ในโซน SMART Manufacturing Technology และ(Ro)Bot Hub จากบริษัทผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าของเมืองไทย รวมไปถึงการแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักร ระบบอัตโนมัติ ซอฟท์แวร์ หุ่นยนต์แขนกล จากบริษัทชั้นนำ ทั่วโลก คาดการณ์ว่าปีนี้ จะมีเครื่องจักรร่วมงานกว่า 1,200 แบรนด์ จาก 45 ประเทศ 800 บริษัท บนพื้นที่กว่า 38, ตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้ประกอบการทั้งในไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงานกว่า 000 45,000 ราย
นางสาวซ่อนกลิ่น กล่าวทิ้งท้ายว่า งานซับคอนไทยแลนด์ปีนี้ นอกจากกิจกรรมจับคู่ธุรกิจซึ่งเป็นกิจกรรมหลักแล้ว ในปีนี้ยังมีบริษัทชั้นนำระดับโลกกว่า 100 บริษัท จากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมตอบรับเข้าร่วมงาน อีกทั้งยังมีโซนจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแสดงศักยภาพของคนไทยในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และการจัดสัมมนาที่เน้นการยกระดับขีดความสามารถผู้ประกอบการไทยต่างๆ อีกมากมาย
งานซับคอนไทยแลนด์ 2020 งานแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและงานจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เป็นการร่วมจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เป็นงานจัดคู่ขนานไปกับ งานอินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2020 จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 13 ถึง เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สนใจติดต่อจองพื้นที่จัดงาน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.subconthailand.com