ไวรัสอาร์เอสวี ระบาดหนัก หมอขอนแก่นเตือนผู้ปกครองเฝ้าอาการบุตร-หลานอย่างใกล้ชิด พบอาการผิดปกติรีบพบแพทย์ทันทีเพราะรักษาไม่ทันอาจเสี่ยงถึงชีวิตได้
มีรายงานว่าจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในช่วงของปลายฝนต้นหนาวส่งผลให้ประชาชนชาว จ.ขอนแก่นส่วนใหญ่ต่างป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจในระยะนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กแรกเกิดถึง 2 ปี ที่เหล่าบรรดาผู้ปกครองต่างนำตัวมาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาในระยะนี้เป็นจำนวนมาก
ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอกฝ่ายกุมารแพทย์มีผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเข้าทำการรักษาอาการป่วยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ในขณะที่บริเวณห้องพักผู้ป่วยอาการวิกฤติเด็ก หรือไอซียูเด็กพบผู้ป่วยในกลุ่มเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ขวบ ที่ป่วยด้วยโรคไวรัสอาร์เอสวีที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในขณะนี้แล้วถึง 5 ราย
พญ.กนกวรรณ ศรีรักษา หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในระยะนี้มีผู้ป่วยทั้งผู้ใหญ่และเด็กเข้ารับการตรวจอาการและพบแพทย์ในกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดจำนวนมาก ซึ่งจัดเป็นกลุ่มโรคที่มากับฤดูกาลที่เกิดขึ้นทุกปี
รพ.ได้มีทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์สำหรับการให้บริการและออกตรวจผู้ป่วย ตามระบบการรักษาที่เข้มงวด ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากในระยะนี้คือโรคอาร์เอสวี ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้มีผู้ป่วยเด็กที่พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูเด็กของ รพ. 5 ราย ที่ต้องเฝ้าติดตามอาการและทำการรักษาตามอาการจากทีมแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด
“โรคอาร์เอสวีที่เกิดขึ้นนี้นั้นเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจท่อนล่าง ซึ่งหากมองในทั่วไปอาจจะคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่เมื่อตรวจวิเคราะห์โรคแล้วเมื่อพบเชื้อก็จะถูกส่งต่อการรักษามาที่ห้องตรวจเฉพาะทางทันที ซึ่ง รพ.ฯมีห้องผู้ป่วยฉุกเฉินและห้องไอซียูเด็ก ที่สามารถรับมือกับผู้ป่วยโรคอาร์เอสวีที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ทั้งหมด 11 เตียง และโรคดังกล่าวนี้หากรักษาไม่ทันก็มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ปี เป็นส่วนใหญ่” พญ.กนกวรรณ กล่าว
ผู้ปกครองต้องหมั่นดูแลบุตรหลานในระยะอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอาการบ่งชี้ที่สำคัญคือไอเยอะ หายใจไม่ออก ไข้สูง ตัวลาย ตัวเย็น กินไม่ได้ และมีอาการซึม ให้รีบนำบุตร-หลานมาพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีและเป็นไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามส่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ปกครองและบุตร-หลาน จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่าง ซึ่งก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้อย่างดีอีกด้วย…