นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวพบบุคลากรในขนส่งมวลชนสาธารณะและประชาชนที่ใช้บริการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นว่า สำนักการจราจรและขนส่งได้ประสานการทำงานร่วมกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด รวมทั้งผู้ได้รับสัมปทานให้บริการเดินรถและผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่อยู่ในความดูแลของ กทม. อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม สายสีเขียวอ่อน สายสีทอง รถโดยสาร BRT เรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม เรือคลองภาษีเจริญ ให้ดำเนินมาตรการรักษาความสะอาด เพื่อป้องกันและควบคุมโควิด- 19 อย่างครบถ้วนและครอบคลุม ตามมาตรการที่กรมการขนส่งทางราง กรมการขนส่งทางบก และกรมเจ้าท่า รวมถึงประกาศกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้ ประกอบด้วย การเพิ่มความถี่ทำความสะอาดบริเวณสถานี รวมถึงภายนอกและภายในตัวรถโดยสาร ตรวจวัดอุณหภูมิประชาชนก่อนเข้าใช้บริการ จัดจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้ใช้บริการ ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาในระบบขนส่งสาธารณะ และงดการพูดคุยสื่อสารระหว่างการใช้บริการ อีกทั้งตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานก่อนการปฏิบัติงาน และกำชับให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ให้บริการประชาชน หากพบพนักงานผู้ให้บริการติดเชื้อโควิด-19 จะให้เข้ารับการรักษาทันที รวมทั้งสั่งกักตัวผู้มีความเสี่ยงสูง เพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างน้อย 14 วัน ตลอดจนตรวจหาเชื้อเพิ่มเติมอย่างน้อยอีก 1 ครั้ง
ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น ยังได้ขอความร่วมมือผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทปฏิบัติตามมาตรการคัดกรอง ควบคุม และป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งมีมาตรการเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่จำเป็นต้องสัมผัสใกล้ชิด เช่น ผู้พิการทางสายตา ผู้พิการที่ใช้รถเข็น ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และเด็ก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างเท่าเทียม รวมถึงจัดระบบขนส่งสาธารณะให้เพียงพอสอดคล้องกับความต้องการใช้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น ตลอดจนส่งเสริมการใช้ E-Ticket หรือระบบตั๋วร่วมของระบบขนส่งสาธารณะ ช่วยลดการสัมผัสเหรียญกษาปณ์และธนบัตรในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19