สาธิต’ เผย Home Isolation แก้ปัญหาเตียงไม่เพียงพอ -สสส.ร่วมหนุนเสริม ตั้ง ‘Community Isolation’ กทม.-ปริมณฑล เตรียมขยายเพิ่มเป็น 40 ชุมชน-ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง-แรงงานข้ามชาติที่ได้รับผลกระทบ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) คนที่ 1 กล่าวในระหว่างการประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส. ว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังน่าเป็นห่วง จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูง ส่งผลให้เตียงทั้งโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลสนามไม่เพียงพอ เกิดปัญหาความล่าช้า ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเร่งแก้ปัญหาเพื่อให้ประชาชนมีเตียงเพียงพอในการรักษา พร้อมกันนี้ก็เตรียมมาตรการดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน หรือ ‘Home Isolation’ สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ สามารถดูแลตนเองได้ที่บ้านโดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาที่ผู้ป่วยต้องทำการกักตัวที่บ้าน ส่งผลให้การจัดหาเตียงในกลุ่มผู้ป่วยสีแดงและสีเหลืองเพียงพอ ลดจำนวนผู้ป่วยแออัดในโรงพยาบาล คาดว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามระบบจะดูแลจัดการเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยได้ดีมากยิ่งขึ้น
ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สปสช. มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และภาคีเครือข่าย สนับสนุนการสร้างระบบ Home Isolation และ Community Isolation ช่วยเหลือให้การแยกตัวรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมด 30 ชุมชน ใน กทม. และปริมณฑล ทั้งผู้ป่วยในชุมชนและนอกชุมชน โดยมีระบบประสานการติดตามโรคของหน่วยบริการปฐมภูมิอย่างใกล้ชิด โดยมีระบบครัวกลางและการแบ่งปันอาหารภายในชุมชนสนับสนุน เพื่อช่วยลดวิกฤตโรงพยาบาลเตียงไม่พอ ช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งจะเป็นต้นแบบขยายสู่ชุมชนอื่นในอนาคต นอกจากนี้ทาง สสส. ยังสนับสนุนการจัดการตัวเองในระยะยาว ด้วยการสนับสนุนเรื่องความมั่นคงทางอาหาร และหารายได้เสริมในชุมชนต่อไป ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ชุมชนนิมิตใหม่เมืองมีน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงาน “การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้านหรือที่ชุมชน” เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
“ สสส. มีหน้าที่หลักคือ การสร้างเสริมสุขภาพให้ทุกคนบนแผ่นดินไทยมีสุขภาวะที่ดี การทำชุมชนให้เข้มแข็ง นอกจากจะทำให้คนในชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการดูแลผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนเห็นความสำคัญของการช่วยกันดูแลทุกข์สุขของเพื่อนมนุษย์ในยามวิกฤตด้วย ต่อจากนี้มีแผนจะขยายเพิ่มอีก 10 ชุมชน เป็น 40 ชุมชนเพื่อให้ครอบคุลมและทั่วถึง นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือไปกลุ่มคนเปราะบาง กลุ่มคนไร้บ้านและแรงงานข้ามชาติที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย” ดร.สุปรีดา กล่าว
ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการสนับสนุนการจัดตั้งระบบให้ประชาชนดูแลตัวเองและชุมชนแล้ว สสส.ยังเร่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจข้อมูลโควิด-19 ให้กับประชาชนอีกด้วย เช่น การสื่อสารแคมเปญ “ถกแขนเสื้อเพื่อเราทุกคน” ชุดความรู้ชัวร์เรื่องโควิดและวัคซีน คู่มือวัคซีนสู้โควิด 4 ภาษาเพื่อให้เข้าถึงคนทุกกลุ่ม แชตชัวร์ตอบคำถามประชาชนเรื่องโควิด เป็นต้น ทั้งนี้ สสส. ได้จัดทำสื่อรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสังคม โดยสามารถติดตามได้ที่ www.thaihealth.or.th/ไทยรู้สู้โควิด