ตำรวจประสานปปง.-กสทช.รวบผู้ต้องหาบัญชีม้า 11 บัญชีม้าอ้างเป็น FBI ตุ๋นเหยื่อสูญ กว่า 3 พันล้าน
ช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา บช.สอท.ร่วมกับ สํานักงาน ปปง., สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศ ไทย โดยหน่วยงาน US Secret Service , สํานักงานสอบสวนกลาง (FBI) และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ประสานความ ร่วมมือทําการสืบสวนกรณีกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติชาวอินเดียร่วมกับชาวไทยหลอกลวงผู้เสียหายในประเทศสหรัฐอเมริกา ลักษณะแก็งค์ Call Center วิธีการหลอกเหยื่อว่าเป็นเจ้าหน้ารัฐ ตราจพบว่าผู้เสียหายเกี่ยวพันกับยาเสพติด ให้เหยื่อโอนเงินมาเพื่อตรวจสอบ
โดยคนร้ายเตรียมบัญชีม้าไว้เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้ายก็ตัดการติดต่อไม่สามารถติดต่อได้ผู้เสียหายส่วนใหญ่ เป็นผู้สูงอายุหรือผู้เกษียณอายุ จากข้อมูลพบว่าชาวอเมริกันตกเป็นเหยื่อ มากกว่า 356 ราย บางรายถูกหลอกสูญเงินกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 17 ล้านบาท) โดยคนร้ายทํางานร่วมกันเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย มีการแบ่งหน้าที่กันทํางาน มีการยักย้าย ถ่ายเทปกปิดซ่อนเร้นทรัพย์สินที่ได้จากการหลอกลวง ทีมสืบสวนจึงได้แฝงตัวเข้าในองค์กรเพื่อสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายผู้ร่วม ขบวนการทั้งหมด และจากใช้เทคนิคการสืบสวนชั้นสูงรวบรวมพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ และใช้เครื่องมือพิเศษตรวจสอบ เส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการอย่างเป็นระบบ
จนกระทั่งทราบว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าว มีเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 3,000 ล้านบาท และกลุ่มคนร้ายนําเงินไปลงทุนหมุนเวียนในระบบธุรกิจเป็นจํานวนมาก เช่น บัญชีธนาคารนิติบุคคล ,กิจการร้านอาหาร และสถานบันเทิงในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นแหล่งฟอกเงิน โดยพบว่าบัญชีม้าที่ใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงเหยื่อเป็นบัญชี ของชาวอินเดียและยังมีบัญชี(ม้า)ที่เปิดโดยคนไทยกว่า100บัญชี ซึ่งเมื่อนําบัญชีดังกล่าวไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลระบบรับแจ้ง ความออนไลน์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ (www.thaipoliceonline.com) พบว่า มีความเชื่อมโยง case id ถึง 41 เรื่อง เจ้าหน้าที่ชุดสบืสวนจงึได้ลงพื้นที่เฝ้าสะกดรอยกลุ่มคนร้ายจนกระทั่งทราบยืนยันตัวจึงได้รวบรวมพยานหลกัฐานขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาจํานวน36 หมายและขออนุมัติศาลอาญาออกหมายค้นจํานวน 9 หมาย จึงได้ประสานความร่วมมือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการ “Operation shell game”
ล่าสุดสำนักงานตํารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบนโยบาย ให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.ผบ.ตร.,กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.ประสานงานกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม(MDES) และชุดประสานงานสํานักงาน กสทช.ร่วมกับ สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดย นายกมลสิทธิ์ วงศ์บัตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ, ร่วมกับ สํานักงาน U.S. SecretServiceของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจําประเทศไทยนําโดยนายเอียนโคโนพิค(Mr.IanKonopik)เจ้าหน้าที่พิเศษ/ ผู้ช่วยหัวหน้าสํานักงานและคุณจงจิตจันทน์ประภาวุฒิ เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย9เป้าหมายทั่วประเทศ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ(บัญชีม้า)จับกุม
1.นายเทวนัชูนันดากิชอร์โจชิอายุ42ปีสัญชาติอินเดียตามหมายจับศาลอาญาที่784/66ลง20มี.ค.66 2.น.ส.ดรัณย์นภทั ธ์ (สงวนนามสกลุ ) อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 779/2566 ลง 20มี.ค.66 3.น.ส.ปรีญาพร(สงวนนามสกุล)อายุ27ปีตามหมายจับศาลอาญาที่778/2566ลง20 มีค.66 4.นายอวตาร์ ซิงห์ อายุ 36 ปี สัญชาติอินเดีย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 785/2566 ลง 20 มีค.66 5.นายโยเกซกุมารอายุ34ปีสัญชาติอินเดียตามหมายจับศาลอาญาที่777/2566ลง20 มีค.66 6.Mr Krunalkumar kaushibhai topiwala อายุ 40 ปี สัญชาติอินเดีย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 786 /2566 ลง 20 มี.ค.66 7.นางอารียาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 776/2566 ลง 20มี.ค.66 8.นางทศั นีย์ (สงวนนามสกลุ ) อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 783/2566 ลง 20มี.ค.66 9.น.ส.ญาดา (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 757/2566 ลง 20 มี.ค.66 10.น.ส.สาคนนิ ท์ (สงวนนามสกลุ ) อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 774/2566 ลง 20 มีค.66 11.น.ส.สุกัญญา(สงวนนามสกุล)อายุ24ปีตามหมายจับศาลอาญาที่769/2566ลง20 มีค.66 12.นายนันทวัฒน์ (สงวนนามสกลุ ) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 760/2566 ลง 20 มีค.66
ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทจุริตหรือโดย หลอกลวง,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนาเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมลูคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,สมคบกันโดยการ ตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทําความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทําความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการ สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลือ อีก 26 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
ทั้งนี้ กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของ รัฐบาลและสํานักงานตํารวจแห่งชาติในการบังคับใช้กฎหมายดําเนินการเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้กระทําความผิดอย่างจริงจงัและ ต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม คํานึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน และการอํานวยความยุติธรรม เพื่อบําบัดทุกข์และ บํารุงสุขของพี่น้องประชาชนเป็นสําคัญ ตามวิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ว่า“เป็นตํารวจมืออาชีพ ทํางานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” ทั้งหากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทําความผิด กรุณาแจ้งมายัง กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เลขที่ 904 ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (รัชกาลที่ 10) ตําบล บ้านใหม่ อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือ www.thaipoliceonline.com