การลงนาม MoU ครั้งประวัติศาสตร์เกิดขึ้นภายในบริเวณสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย โดยเป็นการลงนามระหว่างรัฐบาลไทยและสหพันธ์มวยไทยแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย และระหว่าง IFMA ซึ่งเป็นองค์กรปกครองมวยไทยโลก ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล
วีไอพีกว่า 200 คนจากสถานทูตและสถานกงสุลจากทั่วโลก ผู้แทนจากรัฐบาลไทย นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้จัดการ NSDF ดร.สุปราณี คุปตะสา และจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ กระทรวงกีฬาและรายการดำเนินต่อไปโดยสรุปถึงความสำคัญของเหตุการณ์นี้
นายดาม บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงซาอุดีอาระเบีย กล่าวต้อนรับแขกจากทั่วโลกภายในสวนของสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองราชอาณาจักรผ่านกีฬา และว่าประเทศไทยภูมิใจอย่างแท้จริงที่ มวยไทยภายใต้ IFMA ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
เจ้าชายฟาฮัด บิน มันซูร์ อัล-ซาอูด ประธานสหพันธ์มวยไทยแห่งชาติแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ทรงเน้นย้ำมวยไทยทั้งในฐานะวัฒนธรรมและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว สหพันธ์แห่งชาติซึ่งได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่จากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติและคณะกรรมการพาราลิมปิกและกระทรวงกีฬาแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นสมาชิก IFMA ที่น่าภาคภูมิใจและจะยังคงส่งเสริมมวยไทยตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงชนชั้นสูง
มวยไทยได้รวมอยู่ในซาอุดิอาระเบียแล้ว และราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียกำลังส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน IFMA ทั้งหมด, การแข่งขันชิงแชมป์โลก, การแข่งขันชิงแชมป์เอเชียและอาหรับ และรายการต่อไป
ผู้แทนรัฐบาลไทย และ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ส่งความปรารถนาดีจากรัฐบาลไทยในโอกาสประวัติศาสตร์และความสำคัญของมวยไทยเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศความเป็นปึกแผ่นและสันติภาพ
Stephan Fox ประธาน United Through Sports และ AIMS กล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับในนามของ SportAccord World Combat Games ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงริยาดในวันที่ 21 – 30 ตุลาคม โดยมี IOC ครั้งที่ 16 และ/หรือ SportAccord รับรองCombat Sports ซึ่ง จะนำซาอุดีอาระเบียมาสู่โลกและโลกมาสู่ซาอุดีอาระเบีย การลงนามครั้งสำคัญเกิดขึ้น ตามด้วยการสาธิตทางวัฒนธรรมจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและทีมสาธิตมวยไทยที่แสดงการไหว้ครู ไม้มวยไทย และมวยโบราณ ซึ่งมาจากประเทศไทยโดยเฉพาะพร้อมกับวงปี่มวยแบบดั้งเดิม
งานกาลาดินเนอร์จัดขึ้นหลังจบกิจกรรม และ MoU ฉบับนี้จะดำเนินต่อไป ไม่เพียงแต่ส่งเสริมมวยไทยเท่านั้น แต่ยังสานสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรด้วย
