สูตรจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคก้าวไกลใช้ฐาน 6 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ได้ 309 เสียง ซึ่งล่าสุดก้าวไกลได้เพิ่มมาอีก 1 เสียง รวมเป็น 310 เสียง คาดเป็นสูตรที่ลงตัวที่สุด “พิธา” ย้ำความพร้อมนั่งนายกฯ ด้านเพื่อไทยออกแถลงการณ์ยืนยันไม่จัดรัฐบาลแข่งพร้อมร่วมรัฐบาลโดยให้พรรคเสียงข้างมากเป็นฝ่ายดำเนินการ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ แถลงหลังพรรคก้าวไกลได้จำนวนว ส.ส.เป็นอันดับหนึ่งการเลือกตั้ง 2566 ว่า พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล น้อมรับฉันทามติจากประชาชน พลิกขั้วเปลี่ยนข้างจากฝ่ายค้านเดิมมาจัดตั้งรัฐบาล และตนพร้อมที่จะเป็นนายกของคนไทยทุกคน พร้อมฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง พร้อมคืนศรัทธาให้ระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา สร้างประสิทธิภาพระบบการเมืองไทยและผู้แทนราษฎรทุกคน
นายพิธา กล่าวว่า ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อไปหาแกนนำทั้งหมด 5 พรรค มีโอกาสโทรหาคุณแพรทองธารแสดงความยินดีและได้เชิญชวนพรรคเพื่อไทยร่วมจัดตั้งรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมตามที่เคยสัญญาไว้กับพี่น้องประชาชน โดย 5 พรรคคือ ก้าวไกล เพื่อไทย ไทยสร้างไทย ประชาชาติ เสรีรวมไทย รวม 308 เสียง และกำลังติดต่อไปที่พรรคเป็นธรรม รวม 309 เสียง ซึ่งคิดว่าเพียงพอแล้วในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ถือว่าเป็นการที่ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนต้องน้อมรับฉันทามติจากประชาชนมาปฏิบัติ และชัดเจนว่าเป็นการปิดประตูตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้ว ต่อไปหลังจากนี้ จะมีการเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาล โดยจะนำโรดแมปที่ได้สัญญากับประชาชนไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้จะรีบเร่งตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีศูนยากาศทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ ในช่วงที่ยังรอเวลาอยู่ เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงใดๆต่อประเทศ ขอให้ทุกภาคส่วนมั่นใจในการทำงานของพรรคก้าวไกล เราจะทำงานอย่างละเอียด รอบคอบ รวดเร็ว
นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่กังวลกับเสียง ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ เพราะเป็นฉันทามติจากประชาชนแล้ว ทุกฝ่ายควรจะน้อมรับ การฝืนฉันทามติของประชาชนคงจะไม่มีประโยชน์กับฝ่ายใดเลย รวมทั้ง ส.ว.ด้วย ทั้งนี้มั่นใจว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะจับมือกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเรารวมกันได้ 309 เสียงในระบบที่เป็นการเมืองปกติก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะมีใครกล้าฝืนฉันทามติประชาชน ซึ่งมั่นใจว่า 309 เสียง จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากที่มีน้ำหนักพอ ส่วนพรรคเป็นธรรม เป็นพรรคที่เราเห็นถึงความตั้งใจในการทำงานเพื่อสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคิดดว่าน่าจะมีส่วนช่วยเสถียรภาพของรัฐบาล และทำให้การแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
นายพิธา กล่าวว่า แน่นอน ตอนนี้พร้อมในตำแหน่งนายกฯ หรือถ้ามีความจำเป็นควบกระทรวงต่างๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ตนตั้งใจจริงๆ ก็พร้อมทุกตำแหน่ง อย่างไรก็ตามคิดว่าหมดเวลาของการทำรัฐประหารในประเทศไทยแล้ว เพราะผลของการเลือกตั้งไม่ได้เป็นชัยชนะของพรรคก้าวไกลอย่างเดียวแต่เป็นชัยชนะของประชาชนด้วย ดังนั้นคิดว่าไม่มีพื้นที่สำหรับการรัฐประหารในประเทศไทย
โดยเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ เนื้อหาโดยสรุป ยอมรับการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกล ที่มาเป็นอันดับหนึ่ง และไม่มีแนวคิดจะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับทางพรรคก้าวไกล นอกจากนี้ยังพร้อมร่วมงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล โดยประเด็นต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นขอให้ทางพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายดำเนินการ
ล่าสุด เว็บไซต์ กกต.ซึ่งปรับครั้งสุดท้าย เวลา 12.36 น. พรรคก้าวไกลได้ที่นั่ง สส.เพิ่มมาอีก 1 ที่นั่ง จากจ.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 ซึ่งนับแล้ว 100% ทำให้สูตรจัดตั้งรัฐบาลรวมเสียงทั้งหมดอยูที่ 310 เสียง