การเลือกตั้ง 2566 ผ่านพ้นไปเพียงข้ามวัน เกิดสถิติใหม่ๆ ทั้งประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์ และแม้จะยังไม่ได้มีการรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ในหลายเขตทั่วประเทศก็มีผลการนับคะแนนที่ชัดเจนออกมาแล้ว ซึ่งมีหลายเขตเลือกตั้งเกิด ‘ปรากฏการณ์หักปากกาเซียน’ ที่ผู้สมัครสส.หน้าใหม่ๆ สามารถล้ม “บ้านใหญ่” และโค่นเจ้าถิ่น ได้สำเร็จอย่างเหนือความคาดหมาย
“ทีมข่าวมหาชน” พาไปทำความรู้จักเหล่าผู้สมัครหนุ่มสาว “ตัวตึงหน้าใหม่” ทั้ง 6 คน ผู้มีส่วนพลิกเกมการเมืองสลับขั้ว จนกลายเป็นปรากฏการณ์ล้มช้าง-โค่นเจ้าถิ่น จนบางพื้นที่ถึงขั้นยกจังหวัด ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเกิดขึ้นได้ยากมาก แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นแล้ว
‘ไอซ์’ รักชนก ศรีนอก
เป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขต พรรคก้าวไกล ที่สามารถเอาชนะ นายวัน อยู่บำรุง พรรคเพื่อไทย แชมป์เก่าเจ้าของพื้นที่มาทุกสมัย โดย ‘น้องไอซ์’ ลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 28 เขตจอมทอง บางบอน หนองแขม สามารถชิงคะแนนทิ้งห่างเจ้าถิ่นแบบไม่เห็นฝุ่นไปถึง 47,315 คะแนน ส่วน นายวัน อยู่บำรุง ได้ไป 26,307 คะแนน ตามมาด้วย น.ส.ณิชชา ม่วงศิริ ตระกูลเก่าจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ไป 11,360 คะแนน
สำหรับโปรไฟล์ส่วนตัวของ ไอซ์-รักชนก ศรีนอก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2537 จบปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาสถิติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นมาประกอบธุรกิจส่วนตัวเป็นแม่ค้าออนไลน์ และเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โด่งดังมาจากการแสดงเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการสภาโจ๊ก และมาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากแอป ‘คลับเฮาส์’ ในนาม ‘กลุ่มคลับเฮาส์เพื่อประชาธิปไตย’ ที่เธอได้ร่วมสนทนากับ Tony Woodsome หรือ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จนมาเป็นผู้สมัคร สส.เธอเป็นที่พูดถึงอย่างมากในสไตล์การหาเสียงด้วยวิธีปั่นจักรยานลงพื้นที่ชนิดไม่กลัวแดดไม่กลัวร้อน แนะนำนโยบายแก่ประชาชนได้อย่างลื่นไหล
‘ผึ้ง’ พนิดา มงคลสวัสดิ์
ผู้สมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขต พรรคก้าวไกล สาวหน้าหวานแต่โหดเหมือนถูกผึ้งต่อยคนนี้ สามารถโค่นเจ้าถิ่นตระกูลทรงอำนาจแห่งเมืองปากน้ำได้อย่างราบคาบ เธอลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองสมุทรปราการ ผลคือได้รับเลือกมาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนมากถึง 46,383 คะแนน ทิ้งห่าง ‘บ้านใหญ่’ เจ้าถิ่นตระกูลดังที่ยึดครองพื้นที่นี้มานานหลายชั่วอายุคน อย่างอันดับ 2 นายอัครวัฒน์ อัศวเหม จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ไปเพียง 21,460 คะแนน
อดีตแอร์โฮสเตสสาววัย 30 ปีคนนี้ ก่อนจะมาสวมเสื้อก้าวไกลลงสมัครผู้แทนเมืองปากน้ำ เธอเกิดในครอบครัวรากหญ้า ปู่ย่าตายายเป็นชาวนาสกลนคร ครอบครัวมาตั้งรกรากที่สมุทรปราการ เธอร่ำเรียนชั้นมัธยมที่นั่นจนจบปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มทร.พระนคร ผึ้งสนใจการเมืองมาแต่เด็ก โดยเฉพาะปัญหาความเหลื่อมล้ำ เธอได้รับอิทธิพลจากพ่อที่ไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง ต่อมาผึ้งชื่นชอบและติดตามนโยบายที่แปลกใหม่มาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ จนได้มีโอกาสมาร่วมงานกับพรรคก้าวไกล และลงทำงานในพื้นที่ตลอด 1 ปี อย่างแข็งขัน ในฤดูกาลเลือกตั้งนี้ผึ้งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากมายบนเวทีดีเบต ถึงความคล่องแคล่วชัดเจนในการนำเสนอนโยบายของพรรค
‘กล้า’ อานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย
สมุทรสงคราม เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่มี ส.ส.ได้เพียง 1 คน หลายปีที่ผ่านมามีเจ้าถิ่นครองพื้นที่มายาวนาน แต่การเลือกตั้ง 2566 ครั้งนี้ ผลการนับคะแนน ปรากฎว่า อานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่สามารถเอาชนะเจ้าถิ่นอย่าง “เจ๊โอ๋” รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.5 สมัย ผู้สมัครจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แบบชนะขาดลอย โดยนายอานุภาพ ได้คะแนน 42,206 คะแนน ขณะที่ น.ส.รังสิมา ได้ 21,703 คะแนน
สำหรับประวัติของ “กล้า” อานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย คนหนุ่มรุ่นใหม่วัย 40 ต้นๆ ดีกรีวิศวกรชลประทาน จาก ม.เกษตร เคยเป็นอดีตผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรสงครามเมื่อปี 63 ในนามคณะก้าวหน้า กล้าเป็นลูกชายของ นายอำนวย ลิขิตอำนวยชัย อดีตนายก อบจ.สมุทรสงคราม 2 สมัย ทำให้มีฐานเสียงอยู่ไม่น้อย และครั้งนี้เขาก็สามารถโค่นแชมป์เก่าได้สำเร็จ!
‘กอล์ฟ’ ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล
ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ที่พรรคฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งชนะเลือกตั้งใน จ.เชียงใหม่ ยกจังหวัดมาตลอด ต้องเสียที่นั่งในจังหวัดนี้ไป โดยเฉพาะเขต 3 (อ.สันกำแพง) เขตบ้านเกิดของอดีตนายกฯ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ซึ่ง ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล จากพรรคก้าวไกล บุตรชายของ นายสุรพงษ์ (ปึ้ง) โตวิจักษณ์ชัยกุล ผู้ล่วงลับ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สามารถเอาชนะ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ จากพรรคเพื่อไทย ชนิดห่างกันเกือบ 4,000 คะแนน
‘กอล์ฟ ณัฐพล’ เริ่มทำงานกับพรรคก้าวไกล ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 โดยเริ่มหาเสียงด้วยการวิ่งทางไกล ที่ทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว เขาออกวิ่งหย่อนแผ่นพับหาเสียงตามบ้านเรือนในชุมชนต่างๆ เพื่อแนะนำตัวจนเป็นที่คุ้นตาของชาวบ้าน ส่วนโปรไฟล์ของหนุ่มยิ้มเก่งคนนี้ กอล์ฟ-ณัฐพล วัย 33 ปี เกิดวันที่ 22 ส.ค. 2531 เป็นศิษย์เก่า ร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ปริญญาโท สาขาเดียวกันที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลูเธอรัน สหรัฐอเมริกา กลับมาทําธุรกิจเกสต์เฮาส์ในเมืองเชียงใหม่ และลงสมัครเป็นผู้แทนครั้งแรกก็สามารถยึดพื้นที่บ้านเกิดของอดีตสองนายกฯ ได้สำเร็จเหนือความคาดหมาย
‘แพร’ กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์
ตัวตึงชลบุรีคนนี้ สามารถล้ม ‘บ้านใหญ่ตระกูลคุณปลื้ม’ ผู้มากบารมีแห่งชลบุรีได้แบบเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้วเมื่อ กฤษฏิ์ ชีวะธรรมานนท์ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ตัวแทนกลุ่ม LGBTQ ผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 6 อำเภอศรีราชา, อำเภอเกาะสีชัง สามารถเอาชนะ นางสุกุมล คุณปลื้ม ภรรยาของ นายสนธยา คุณปลื้ม จากพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนน 37,572 และ 27,879 ตามลำดับ
สำหรับประวัติของ กฤษฎิ์ (แพร) คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์การบริหารธุรกิจของครอบครัว คือ บริษัทพรเทพ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตพาเลทไม้ และบรรจุภัณฑ์ไม้ อันดับต้นๆ ของไทย ปัจจุบันเธออายุ 45 ปี จบปริญญาตรีด้านกฎหมาย มหาวิทยาลัยศรีปทุม ชลบุรี และ ปริญญาโท MPA บริหารนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยบูรพา เธอเคยเป็นกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี และเป็นอดีตผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงาน
‘ครูกฤช’ กฤช ศิลปชัย
ผู้คว้าชัยชนะเลือกตั้งเมืองระยอง ไปพร้อมกับเพื่อนๆ ทีมผู้สมัครพรรคก้าวไกลทั้ง 5 เขต แบบยกจังหวัด จากความทุ่มเทแรงกายแรงใจลงพื้นที่หาเสียง อธิบายนโยบายพรรคแบบเคาะประตูบ้านตั้งแต่ยังไม่มีการประกาศยุบสภา ชัยชนะครั้งนี้เป็นที่ฮือฮาเพราะ “บ้านใหญ่” ของระยอง ถูกโค่นแชมป์ที่ถือครองมายาวนานหลายปี อย่างตระกูล ‘ปิตุเตชะ’ ที่ต้องมาพ่ายให้กับผู้สมัครหน้าใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 2 อย่าง นายกฤช ศิลปชัย จากพรรคก้าวไกล ที่สามารถคว้าชัยด้วยคะแนนนำอันดับ 1 จำนวน 38,813 คะแนน ชนะขาดทิ้งอันดับ 2 อย่าง นายสาธิต ปิตุเตชะ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ไปมากกว่าหมื่นคะแนน
สำหรับโปรไฟล์ของครูกฤช ผู้สมัครที่ชูนโยบายด้านการศึกษาเป็นหัวใจหลัก เขาเคยเป็นครูสอนดนตรีมาก่อน (ที่โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง) และเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรดนตรีมาตรฐานสากล ด้วยความที่จบศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาดนตรีสากล ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ไม่ใช่แค่เรื่องของซอฟพาวเวอร์อย่างดนตรีเท่านั้น ครูกฤชยังสนับสนุนด้านกีฬาด้วย ปัจจุบันเขาเป็นประธานชมรมกีฬา Extreme ระยอง
