ที่ประชุม ก.ตร. มีมติตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 4 เป็น ผบ.ตร. คนใหม่ หลังจากในช่วงแรก ที่ประชุม ก.ตร. ได้เลื่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ยาวไปถึงเดือน ต.ค. โดยได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 รักษาการ ผบ.ตร. ไปก่อน
วันนี้ (27 ก.ย.2566) มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 แทน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
การประชุมเริ่มต้นตั้งแต่ 14.00 น.วาระการประชุมแต่งตั้ง ผบ.ตร. ในวันนี้อยู่ในวาระที่ 65 ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย แต่ได้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน เป็นวาระแรก ซึ่งในช่วงแรกที่ประชุม ก.ตร.ได้เลื่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ยาวไปถึงเดือน ต.ค. โดยมีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 ให้รักษาการ ผบ.ตร. ไปก่อน
แต่ต่อมา ที่ประชุม ก.ตร. ต้องการเดินหน้าเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ โดยรายงานข่าวระบุว่า “อยากให้จบ” ก่อนให้แคนดิแดต ผบ.ตร.ที่วันนี้มาเพียง 2 คน คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ออกไปนอกห้อง หลังจากนั้นจึงมีการลงมติในเวลา 16.28 น.โดยผลออกมาว่า ก.ตร. มีมติเสียงข้างมากแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 ซึ่งเป็นผู้อาวุโส ชิงตำแหน่งในลำดับที่ 4 ซึ่งเป็นลำดับสุดท้าย
ทั้งนี้ ลำดับอาวุโสของ รอง ผบ.ตร. 4 นาย ที่เป็นผู้ชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.ในวันนี้ คือ ลำดับที่ 1 พล.ต.อ.รอย, ลำดับที่ 2 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล, ลำดับที่ 3 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และลำดับที่ 4 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล
จากนั้นในเวลา 17.05 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ประธานในที่ประชุม ก.ตร.ได้เดินทางออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
สำหรับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ขึ้นเป็นผู้บังคับการ “กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ” คนแรก ซึ่งยกฐานะจากหน่วยคอมมานโดในเดือน ต.ค. 2561 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในปี 2563 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ใช้เวลาเพียง 5 ปี ก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของข้าราชตำรวจในปี 2566 โดยการขึ้นสู่ตำแหน่งในช่วงหนึ่ง ได้รับการ “ยกเว้นหลักเกณฑ์” จาก ก.ตร. อย่างต่อเนื่อง และแม้จะถือว่ามีลำดับอาวุโสท้ายสุด และต่างจากนายตำรวจแคนดิเดตทุกคนที่ผ่านมา คือไม่ได้จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.) แต่แคนดิเดต ผบ.ตร.ผู้นี้ก็สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดได้ในที่สุด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นน้องชายของ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ปัจจุบันเขาอายุ 59 ปี จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนโยธินบูรณะ ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สิงห์แดงรุ่น 38 ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณทิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
ก่อนเข้ารับราชการตำรวจ เมื่อปี พ.ศ.2540 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยเป็นพนักงานบริษัทน้ำมันคาลเท็กซ์ ก่อนตัดสินใจลาออก และเข้าหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอต.) รุ่นที่ 4 ต่อมาในปี 2561 ได้เป็น ‘ผู้บังคับการ’ คนแรกของหน่วยงานใหม่ ‘กองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ’ จากนั้นก็ขยับขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. 2567 และวันนี้เขาคือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14