“เศรษฐา”ย้ำค่าบาทอ่อนมีแง่บวก ท่องเที่ยว -ส่งออก ได้อานิสงส์ ยืนยันสถานะทางการเงินของประเทศยังแข็งแกร่งรับมือวิกฤติฉุกเฉินได้แน่นอน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์เงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นห่วงเรื่องการนำเข้าน้ำมันและอุตสาหกรรมหรือไม่ ว่าเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง แต่เรื่องการจะไปก้าวก่าย หรือไปแทรกแซงคงไม่มี ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด
และการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าก็ไม่ได้มีผลเสียทั้งหมด เพราะการส่งออกที่มากกว่า 50% ของจีดีพี ส่วนการท่องเที่ยวคือ 20% ของจีดีพีก็ได้รับอานิสงส์ในเชิงบวก แต่ต้องดูให้เหมาะสม ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ดูแลและติดตามเรื่องนี้อยู่ ได้มีการประเมินโดยเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ตนได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงแผนระยะกลาง ระยะยาวว่าถ้าเสนอนโยบายออกไปแล้วควรจะเป็นอย่างไร ทั้งภาพเครดิตเรทติ้ง เอเจนซี่ ประชาชนและนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งผู้ว่าธปท.ได้ให้คำแนะนำและไกด์ไลน์มาว่า รัฐบาลควรทำอย่างไรซึ่งตนก็น้อมรับ รวมถึงรมช.คลังและปลัดกระทรวงการคลังก็จะนำสิ่งที่พูดคุยไปพิจารณา
ทั้งนี้ในการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก นายกฯรัฐมนตรี ยังแสดงความมั่นใจถึงสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ ว่ายังคงมีความแข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับสถานการณ์วิกฤติได้แน่นอน
ส่วนการบริหารจัดการน้ำมันนั้น นายกฯ กล่าวว่า “ราคาน้ำมันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเรานำเข้าน้ำมันจำนวนมากก็ต้องหาและใช้พลังงานทดแทน รวมถึงต้องใช้แผนระยะยาวในการแก้ไขปัญหาเรื่องแหล่งพลังงาน”
ส่วนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือเงินดิจิทัลนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้เตรียมที่จะมีการแถลงโดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง