จากข้อร้องเรียนกรณี ขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการทำโครงการก่อสร้างระบบประปา ในพื้นที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน และ ต.หาดทนง อ.เมือง จ.อุทัยธานี นำไปสู่การออกปฏิบัติ กวาดล้างการกระทำการทุจริตฯ
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ปปป. พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.4.บก.ปปป. สนธิกำลัง พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4.บก.ป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. นำกำลังเจ้าหน้าที่และชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน กองปราบ” บุกค้น 8 จุด ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 5 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายวีระชาติ รัศมี อายุ 45 ปี นายกเทศบาลตลุกดู่ 2. นายธนภัสสร์ ดุลยาธิการ อายุ 23 ปี ตำแหน่งปลัดเทศบาลตลุกดู่ 3. นายกุลธัช สามัคคี อายุ 47 ปี ผู้ช่วยนายช่างโยธาเทศบาลตลุกดู่ ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.167-169/2566 ตามลำดับ ลงวันที่ 22 ต.ค. 2566 ข้อหา ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ส่วนผู้กระทำผิดที่ถูกจับอีก 2 ราย เป็นประชาชนทั่วไป คือ นายมานพ ติดติมานพ อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ จ.170/2566 ลงวันที่ 22 ต.ค. 2566 ข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ นายยิ่งยง คชาชาญ อายุ 30 ปี ตามความผิดซึ่งหน้า ในความผิดฐาน สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ส่วนนายวีระชาติ ได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี นายธนภัสสร์ กับ นายกุลธัช จับได้ที่ห้องทำงานในเทศบาลตลุกดู่ ขณะที่ นายมานพ และ นายยิ่งยง ถูกจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าธนาคาร ธกส. สาขาเมืองอุทัยธานี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 6 แสนบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการดังกล่าวเนื่องมาจาก ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งประกอบกิจการรับเหมาทำบ่อน้ำประปารายหนึ่งว่า ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดอุทัยธานีได้จัดทำโครงการก่อสร้างระบบท่อน้ำประปาในพื้นที่ ต.ตะลุกดู่ และ ต.หาดทะนง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างๆ ได้ยื่นสิทธิในการประมูลผ่านรูปแบบของ e-bidding หรือวิธีประกวดราคาผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เสียหายจึงสนใจยื่นสิทธิเข้าร่วมการประมูลทั้ง 2 แห่ง
ทั้งนี้ หลังจากยื่นสิทธิเข้าร่วมประมูลได้ไม่นาน ได้มีบุคคลปริศนาโทรศัพท์มาข่มขู่ให้ถอนตัว อ้างว่ามีผู้ใหญ่อยากได้โครงการนี้ไปทำ พร้อมเสนอเงินหลายหมื่นบาท เป็นค่าชดเชยหรือค่าเสียเวลาให้ แต่ทางผู้เสียหายไม่สนใจ จึงตอบปฏิเสธกลับไป พร้อมกับยื่นประมูลตามเดิม จนชนะการประมูลได้รับงานทั้ง 2 โครงการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังจากชนะการประมูลได้รับงานก่อสร้างทั้ง 2 โครงการแล้วนั้น ผู้เสียหายกลับไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากมีกลุ่มอิทธิพลมืดทำการล็อบบี้สั่งห้ามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง แคมป์ปูนซีเมนต์ทุกแห่งในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ขายปูนหรืออุปกรณ์ที่ให้กับผู้เสียหาย จนเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในการก่อสร้าง ไม่สามารถดำเนินงานจัดสร้างได้ตามแผนที่วางไว้
กระทั่งประมาณเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา นายวีระชาติ ได้เรียกผู้เสียหายมาเข้าพบจำนวน 3 ครั้ง ก่อนยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหาย ยอมจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อที่จะสามารถดำเนินการก่อสร้างโครงการทั้ง 2 แห่งได้อย่างปกติ ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือ 6 แสนบาท โดยนัดหมายส่งมอบเงินกันในวันนี้ ที่บริเวณด้านหน้าธนาคาร ธกส. สาขา อ.เมือง จ.อุทัยธานี จึงวางแผนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย มี นายมานพ และ นายยิ่งยง เป็นผู้เดินทางมารับเงิน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนนำกำลังขยายผลตามจับกุมตัว นายวีระชาติ และพวกอีก 2 ราย พร้อมเข้าตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหาได้ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
โดยมีรายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า นายวีระชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหารที่จับกุมตัวได้นั้น เป็นลูกเขยของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเป็นสามีของ น.ส.อัลฑริกา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาวคนที่ 4 ของ นายชาดา
หลังปฏิบัติการจับกุมตัวดังกล่าวเผยแพร่ผ่านสื่อฯ เกิดคอมเมนต์จากชาวโซเชียลที่อยากให้ นายชาดา รมช.มหาดไทย ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น รวมถึงเรียกร้องไปถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหลังคนในครอบครัวถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตเรียกรับทรัพย์สินในครั้งนี้