รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ทดลองใช้บัตร EMV Contactless เดินทางข้ามระบบระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง ณ สถานีบางซ่อน มั่นใจ! ผู้โดยสารรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย เดินทางเชื่อมต่อสะดวก จ่ายเพียง 20 บาท เท่านั้น
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ พร้อมด้วย นางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม (ด้านอำนวยการ) และ ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่ทดสอบการเดินทางข้ามระบบโดยใช้บัตร EMV Contactless ได้รับสิทธิตามมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ระยะที่ 2 เชื่อมต่อรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) – รถไฟฟ้าชานเมือง สายนครวิถี (สายสีแดง) โดยมี นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) และนายกิติพงศ์ มุตตามระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์รายย่อย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ ณ สถานีบางซ่อน ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้กำกับดูแลให้ รฟม. และ รฟฟท. ดำเนินการตามมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ระยะที่ 1 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จ่ายสูงสุดไม่เกิน 20 บาท และผู้โดยสารที่เดินทางในระบบรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง จ่ายสูงสุดไม่เกิน 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 พบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคประชาชนที่เป็นผู้ใช้บริการของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ในส่วนของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7,824 คน คิดเป็น 13.73% และรถไฟชานเมือง สายสีแดง มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4,465 คน คิดเป็น 20.64% (ข้อมูลเปรียบเทียบก่อน – หลังดำเนินมาตรการฯ ถึงวันที่ 27 พ.ย. 2566) เนื่องจากสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพด้านการเดินทางให้แก่ประชาชนได้จริง โดยมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล ในด้าน “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ที่กระทรวงคมนาคม ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในสังกัด สามารถผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนได้รับประโยชน์ และในวันนี้เรามีความพร้อมที่จะเดินหน้ามาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย สู่ระยะที่ 2 สำหรับกลุ่มผู้ใช้บริการที่มีการเดินทางข้ามระบบ ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง จะสามารถจ่ายค่าโดยสารร่วม 2 สาย ได้ในราคาเพียง 20 บาท เท่านั้น เมื่อใช้บัตร EMV Contactless ใบเดียวกัน และเปลี่ยนถ่ายระบบ ณ สถานีบางซ่อน ภายในระยะเวลา 30 นาที ทั้งนี้ เมื่อใช้บัตร EMV Contactless เดินทางข้ามระบบ จะถูกหักเงินในบัตรก่อนสายละ 20 บาท รวมเป็น 40 บาท และทางธนาคารจะดำเนินการ Cash Back กลับเข้าบัตรให้ภายใน 3 วัน ทำให้จ่ายค่าโดยสารร่วมจริงเพียง 20 บาท ซึ่งต้องขอขอบคุณในความร่วมมืออย่างดียิ่งจาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้พัฒนาระบบรับชำระค่าโดยสารด้วยบัตร EMV Contactless ให้แก่รถไฟฟ้าทั้ง 2 สายด้วย
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวต่อว่า การใช้บัตร EMV Contactless แตะเข้า – ออกจากระบบรถไฟฟ้า มีความสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าไม่จำเป็นจะต้องพกบัตรโดยสารหลายใบอีกต่อไป โดยบัตร EMV Contactless นี้ สามารถใช้แตะเข้าระบบรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางได้ทันที ทั้งยังได้รับสิทธิตามมาตรการแบ่งเบาภาระค่าโดยสารรถไฟฟ้าต่างๆ ของภาครัฐอย่างเต็มที่ ไม่เพียงเฉพาะสิทธิจ่ายค่าโดยสารร่วม รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง – รถไฟชานเมือง สายสีแดง ในราคา 20 บาท แต่ปัจจุบันผู้ที่ใช้บัตร EMV Contactless นี้ในการเดินทางข้ามระบบระหว่างรถไฟฟ้า MRT ทุกสายในความรับผิดชอบของ รฟม. ได้แก่ สายสีม่วง – สายสีน้ำเงิน – สายสีเหลือง รวมถึงสายสีชมพูที่กำลังจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ช่วงต้นปี 2567 นี้ ยังจะได้รับสิทธิส่วนลดการเปลี่ยนถ่ายระบบอีกด้วย นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมอบโจทย์สำคัญให้ ขร. เป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ในการศึกษาแนวทางและจัดทำข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายที่เหมาะสมสำหรับการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าในระยะต่อๆ ไป ที่สามารถสานต่อนโยบายดังกล่าวได้ และต้องอยู่บนพื้นฐานที่ไม่เป็นภาระทางการเงินของหน่วยงานภาครัฐในอนาคต ควบคู่ไปกับการจัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการหารายได้เพิ่มเติมของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้า MRT ทุกสายในความรับผิดชอบของ รฟม. ที่เปิดให้บริการแก่ประชาชนแล้ว ครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน ที่มีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เป็นผู้รับสัมปทานในการเดินรถ และรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง และสายสีชมพู ที่มีบริษัท อีสเทิร์น บางกอก โมโนเรล จำกัด (EBM) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) เป็นผู้รับสัมปทานในการเดินรถ ให้สามารถรองรับการชำระค่าโดยสารด้วยบัตร EMV Contactless ได้ทั้งหมด โดยผู้ที่เดินทางข้ามระบบในระหว่างรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 4 สายนี้ ด้วยบัตร EMV Contactless ใบเดียวกัน และเปลี่ยนถ่ายระบบภายในเวลา 30 นาที จะจ่ายค่าแรกเข้าระบบเพียงครั้งเดียว โดยคิดจากค่าแรกเข้าหรือค่าโดยสารเริ่มต้นของรถไฟฟ้า MRT สายแรกที่ท่านเริ่มเดินทางเท่านั้น
ทั้งนี้ รฟม. มองว่า EMV เป็นระบบเปิดที่มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามแนวทางการกำหนดอัตราค่าโดยสารแบบใหม่ๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี และเป็นมิตรต่อทั้งต่อผู้ใช้บริการชาวไทย และต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาใช้บริการระบบรถไฟฟ้า MRT เนื่องจากคนจำนวนมากพกบัตรเครดิตวีซ่า (VISA) หรือมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ที่มีสัญลักษณ์ Contactless Payment อยู่แล้ว ซึ่งสามารถใช้เป็นบัตร EMV Contactless ในการแตะเข้า – ออก ระบบรถไฟฟ้า MRT ได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีบัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทย บัตรเดบิตของธนาคารยูโอบี และบัตรเดบิต Play Card (สมัครผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์) ที่สามารถใช้เป็นบัตร EMV Contactless ได้เช่นเดียวกัน สามารถติดตามข่าวสาร รฟม. ได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044 “รฟม. ร่วมยกระดับเมืองด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนและนวัตกรรม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน”