กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้า 4 ภารกิจเชิงรุก มุ่งมั่นส่งเสริมให้คนไทยเป็นเจ้าของนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมูลค่า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ นำพาประเทศก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ดำเนินภารกิจด้านทรัพย์สินทางปัญญาครบทุกมิติ โดยในด้านส่งเสริมการสร้างสรรค์ ได้จัดให้มีบริการให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญาแบบครบวงจร เข้าถึง SMEs กว่า 10,000 ราย มีระบบวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยีสิทธิบัตร ช่วยให้ธุรกิจไทยรู้เท่าทันคู่แข่ง/คู่ค้า และมองเห็นช่องว่างของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อวางแผนกลยุทธ์หรือแนวทางพัฒนาสินค้า และส่งเสริมคนรุ่นใหม่สร้างสรรค์งานเพลงบุกตลาดสตรีมมิ่งเอเชีย ในฮ่องกง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย มีการรับชมกว่า 10 ล้านครั้ง สำหรับด้านส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ อาทิ การยกระดับสินค้า GI ไทย 200 สินค้า สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 58,000 ล้านบาท การส่งเสริมการสร้างแบรนด์กีฬาของคนไทยสู่สากลด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ให้จดจำง่าย คุ้มครองทั่วโลก การจัดงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อแสดงนวัตกรรมงานสร้างสรรค์ของไทย และสร้างโอกาสทางธุรกิจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในงานกว่า 100 ล้านบาท เป็นต้น”
นายวุฒิไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้านการให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ได้นำเทคโนโลยีมายกระดับงานบริการ อาทิ ระบบ IP e-Registration ครอบคลุมตั้งแต่การยื่นคำขอผ่าน e-Filing ชำระเงินผ่าน e-Payment รับใบเสร็จผ่าน e-Receipt และรับหนังสือสำคัญผ่าน e-Certification ช่วยลดขั้นตอนและค่าใช้จ่าย ระบบ Image Search ช่วยตรวจสอบความเหมือนคล้ายเครื่องหมายการค้า ระบบ AI Search ช่วยลดระยะเวลาตรวจสอบคำขอ รวมทั้งบริการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ แบบเร่งด่วน (Fast Track) และสุดท้ายด้านการปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ได้จัดงานทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กว่า 1.2 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 600 ล้านบาท พัฒนามาตรการป้องปรามการละเมิดเชิงรุกทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งส่งเสริมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งในและต่างประเทศ เพื่อลดจำนวนคดีขึ้นสู่ศาล ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย”
“ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2567 กรมฯ ยังคงเดินหน้าส่งเสริมการสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการสำคัญ อาทิ การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการค้าใน 11 อุตสาหกรรมการยกระดับสินค้า GI ไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารและขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างมูลค่าการตลาดมุ่งสู่ 64,000 ล้านบาท การส่งเสริมการสร้างสรรค์การ์ตูนออนไลน์ (T-Toon)
ที่มีผู้อ่านทั่วโลกมากกว่า 60 ล้านคนต่อเดือน ผลักดันการแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ และสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ให้ตอบโจทย์การค้ายุคดิจิทัล รวมทั้งจัดทําแผนพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย พ.ศ. 2567 – 2569
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบคุ้มครองและปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีหมุดหมายสำคัญในการเดินหน้านำพาประเทศไทยหลุดจากบัญชี WL” นายวุฒิไกร กล่าวทิ้งท้าย