“ควอนตัม เอสดีจีเอ็ม” สตาร์ตอัปใหม่ในเครือสหพัฒน์ และ “เอ็มทีเอส โกลด์” ผู้นำด้านทองคำครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของไทย ต่อยอดความร่วมมือด้านธุรกิจออมทอง เดินหน้าผลิตทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% ตามมาตรฐานสากล สนับสนุนระบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง สำหรับการออมทอง การลงทุนในทองคำ และใช้ทองคำเป็นหลักทรัพย์สำรองของเครือสหพัฒน์ และพันธมิตรธุรกิจ
นายพิภพ โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอนตัม เอสดีจีเอ็ม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เป็นสตาร์ตอัปใหม่ของเครือสหพัฒน์ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสนับสนุนการลงทุนในทองคำในรูปแบบดิจิทัลให้กับพนักงาน คู่ค้า และลูกค้าของเครือสหพัฒน์ โดยในงานสหกรุ๊ปแฟร์เมื่อปี 2566 ทางเครือสหพัฒน์ ได้มีการลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการออมทองในรูปแบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง (Digital Gold Saving) เพื่อให้พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และบริษัทในเครือสหพัฒน์ เข้าถึงการลงทุนในทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการซื้อขายทองคำ ทำให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดทองคำมากขึ้น ไม่ว่าจะตลาดในประเทศหรือต่างประเทศ โดยมีบล็อกเชนเป็นโครงสร้างพื้นฐาน และมีเอ็มทีเอส โกลด์ เป็นผู้จัดหาทองคำ
“การลงนามความร่วมมือระหว่างควอนตัม เอสดีจีเอ็ม และเอ็มทีเอส โกลด์ ในปีนี้เป็นการต่อยอดจากปีก่อนหน้า โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมมือกันผลิตทองคำแท่ง ความบริสุทธิ์ 99.99% ตามมาตรฐานสากล เพื่อรองรับระบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง สำหรับการออมทอง การลงทุนในทองคำ และใช้ทองคำเป็นหลักทรัพย์สำรองของเครือสหพัฒน์และพันธมิตร ซึ่งจะทำให้เรามีบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่ระบบออมทอง การผลิตทองคำ รวมถึงการจัดเก็บทองคำในห้องนิรภัยระดับสูง พร้อมการออกแบบ การตรวจสอบที่โปร่งใส ที่จะทำให้ผู้ใช้งานทุกคนเชื่อมั่นในความปลอดภัย และมั่นใจในสินทรัพย์ทองคำที่บริษัทจัดเก็บให้” นายพิภพ กล่าว
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหาร บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด กล่าวว่า เอ็มทีเอส โกลด์ เป็นผู้นำด้านการนำเข้าและส่งออกทองคำรายใหญ่ของประเทศไทย สามารถผลิตทองคำแท่งระดับพรีเมียม ด้วยเนื้อทองคำบริสุทธิ์เต็ม 99.99% โดยใช้กรรมวิธีและเครื่องมือผลิตระดับสากล ความบริสุทธิ์ของเนื้อทองที่ได้คุณภาพ ทำให้สินค้าที่ผ่านการแปรรูปจากเนื้อทองคำของเอ็มทีเอส โกลด์ มีความสวยงามและได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในตลาดทองคำ
“เรามีความยินดีที่ได้ต่อยอดความร่วมมือกับเครือสหพัฒน์อีกครั้ง โดยความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการร่วมกันผลิตทองคำเพื่อรองรับระบบออมทองที่ได้เคยร่วมมือกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทั้ง 2 ฝ่ายได้เติบโตขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน สินทรัพย์ประเภททองคำได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไปที่ซื้อเพื่อเก็บออมหรือลงทุน เพราะเป็นสินทรัพย์ประเภทสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจสูง เช่น เงินเฟ้อ เงินฝืด หรือเกิดวิกฤต” นายณัฐพงศ์ กล่าว