อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม. “เดชทัต บุนนาค” แจงไม่เกี่ยวม็อบลงถนนล้มรัฐบาล! หลังถูกนำไปอ้างจนเป็นกระแสข่าว

อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม.วอนสื่อฯช่วยแจงหลังถูกนำเอาไปโยงเป็นข่าว สร้างกระแสร่วมลงถนน ขับไล่ รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร 

จากกรณีนายราเชน ตระกูลเวียง ได้ส่งข่าว รายการ ข่าวข้นคนข่าว สำนักข่าว เนชั่น ทีวี ช่อง22 พาดพิงมาถึงนายเดชทัต บุนนาค อดีตผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในประเด็น ที่กลุ่ม พรรคการเมือง ต่างๆได้มาร่วมหารือ เกี่ยวกับการไม่ขอร่วมลงถนน ขับไล่ รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร โดยมี นายเดชทัต อดีตผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมตามที่ออกอากาศสู่ สาธารณะชน

ล่าสุดนายเดชทัต บุนนาค หรือ ชื่อเดิม นายไกรเดช บุนนาค อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อปี2565 ออกมาเปิดเผยและชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับกรณีการลงถนน ขับไล่ รัฐบาล โดยระบุว่า “เมื่อ วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 12.00น ได้เดินทางไปร่วมรับประทานอาหาร กับ นายราเชน ตระกูลเวียง หัวหน้า พรรคทางเลือกใหม่ และ บรรดากรรมการบริหารพรรคการเมือง อื่นๆ หลายพรรค ที่หมู่บ้านกรุงนนท์ จังหวัดนนทบุรี จริง แต่ตนเองไม่ได้ เสวนา เรื่องการจะออกมาร่วมลงถนน ขับไล่รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร แต่อย่างใด เพียงแต่พูดคุยถึง สถานะการณ์ การเมือง บ้านเรา ทั่วไปตามประสา คนการเมือง และก็แยกย้าย ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวออกมา

นายเดชทัต บุนนาค หรือ ชื่อเดิม นายไกรเดช บุนนาค อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ นายเดชทัต บุนนาค ยังได้กล่าวเสริม ว่า ปัจจุบัน ตนเองก็ไม่ได้เป็น กรรมการบริหาร หรือ สมาชิก พรรคการเมืองใดๆ เพราะตอนนี้ กลับมาทำอาชีพเดิม คือ สื่อมวลชน จึงขอเรียนชี้แจง ข้อเท็จจริงให้ทราบตามความเป็นจริง ในกรณีที่มีข่าว เรื่องนี้ออกมา เมื่อวันก่อน ไม่ได้กล่าวหรือสนทนาเรื่อง การจะไม่ร่วม ม๊อบลงถนน แต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ หากจะร่วมหรือไม่ร่วม ในหลักการแล้ว หากจะทำจริงตามที่ข่าวออกนั้น ควรจะต้องทำแถลงข่าว แต่นี่เป็นเพียง พูดคุย ในโต๊ะอาหาร ซึ่งเราก็คุยกันหลายเรื่อง มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้างก็เท่านั้น”

ทั้งนี้นายเดชทัต ยืนยันด้วยว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ กับการชุมนุมในทุกรูปแบบและไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองกับกลุ่มหรือพรรคการเมืองใดๆ โดยในปัจจุบันได้เน้นเฉพาะงานและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม จึงฝากสื่อมวลชนชี้แจงเพื่อป้องกันความสับสนของสังคม และอาจมีผู้ไม่หวังหยิบยกเอาไปอ้างซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *