ผู้ว่าการ กคช. ยืนยัน“โครงการบ้านสุขประชา” ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย ยึดหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ดำเนินการทุกเรื่องตามกฎหมายพร้อมให้ตรวจสอบทุกขั้นตอน
เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีมีการยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบโครงการบ้านเคหะสุขประชาว่า การดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชา อยู่ภายใต้กรอบแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย 20 ปี ตามมติ ครม. ซึ่งการเคหะแห่งชาติดำเนินการถูกต้องตามข้อกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ แผนโครงการนำร่องระยะเร่งด่วน บ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย “บ้านเคหะสุขประชา” จำนวน 2 แห่ง คือโครงการฯ ฉลองกรุงและร่มเกล้ารวม 572 หน่วย
ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลงทุน ตามมติครม.ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนระหว่างปี โดยอยู่ระหว่างดำเนินการเสนอครม. เพื่อให้ความเห็นชอบภายหลังจากนำผลการดำเนินงานโครงการนำร่องเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกอบการนำเสนอโครงการบ้านเคหะสุขประชาต่อไป เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยความบอบช้ำในอดีตที่เกิดขึ้นกับโครงการของการเคหะแห่งชาติอีก
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า การดำเนินงานถมดินของโครงการ ตามหนังสือของ สศช. ลงวันที่10 กันยายน 2563 อนุมัติการปรับปรุงงบลงทุนประจำปี 2563 เพิ่มวงเงินดำเนินการ 821.125 ล้านบาท โดยผูกพันไปดำเนินการในปีงบประมาณ 2564 เพื่อให้ กคช. สามารถดำเนินการถมดินเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการพัฒนาบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามศักยภาพและความสามารถ ซึ่งอยู่ในงบลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติ แผนรายปี เป็นงบประมาณรายการเดียวซึ่ง กคช.ดำเนินการภายใต้งบประมาณที่ได้รับอนุมัติ จำนวน 821.125 ล้านบาท โดยดำเนินการตามผลการศึกษาความเหมาะสมในการจัดทำโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย “บ้านเคหะสุขประชา” มีเป้าหมายที่จะดำเนินการในพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งการจัดจ้าง บริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด (CEMCO) ซึ่งเป็นบริษัทที่ กคช. ถือหุ้นรายใหญ่ เป็นไปตาม พรบ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างถูกต้อง
“การเคหะแห่งชาติยึดหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ดำเนินการทุกเรื่องตามระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนดทุกโครงการ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ดังนั้นยินดีให้ตรวจสอบทุกขั้นตอน ขอยืนยันทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความโปร่งใสในการทำงาน และพร้อมที่จะตอบชี้แจงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายทวีพงษ์กล่าวย้ำ