โป่ง หินเหล็กไฟ ควงลูกสาว แองจี้ ฐิติชา เคลียร์ข่าวเม้าท์ใช้เส้นคุณพ่อเข้าวงการ-คุณพ่อหวงหนักติดแอปพลิเคชั่นตามลูกสาว!

ร็อกเกอร์ระดับตำนานแถวหน้าของเมืองไทย พี่โป่ง หินเหล็กไฟ ที่วันนี้ขอขึ้นแท่นป๋าดันลูกสาว น้องแองจี้ ฐิติชา ขึ้นแท่นศิลปินหน้าใหม่ ขอเคลียร์ชัดๆ ใช้เส้นคุณพ่อเข้าวงการหรือไม่ ? เผยเป็นคุณพ่อสายชิลไม่เคยดุลูกเลยสักครั้ง พร้อมเปิดใจครั้งแรก ยอมรับหวงลูกสาวมาก บอกเลยลูกสาวข้าใครอย่าแตะ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีบูม สุภาพร และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการทุกวันนี้งานคอนเสิร์ตเยอะเลย?

พี่โป่ง : ครับ ประมาณสัก 10-15 งานต่อเดือน

ตอนนี้ น้องแองจี้ มาเป็นศิลปินแล้วในอายุ 20 ปี แต่จริงๆ น้องแองจี้ เริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 13-14 ปี?

แองจี้ : ตอนแรกเริ่มจากการเป็นนักร้อง ตอนนั้นอยู่ในกามิกาเซ่ จริงๆ ชอบร้องเพลง ชอบเต้นตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อก็จะเปิดให้ฟังตลอด เหมือนโตมากับดนตรี

พอน้องแองจี้ เข้าวงการ ก็มีคนมองว่าใช้เส้นสายคุณพ่อ คุณพ่อเป็นนักร้องถึงได้เข้าไป เวลาที่ได้ยินอะไรแบบนี้ แองจี้รู้สึกยังไง?

แองจี้ : รู้สึกว่ามันคงเป็นเรื่องปกติที่คนจะคิดแบบนั้นด้วยความที่เราเป็นลูกพ่อ แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ ด้วยความที่เราเป็นลูกพ่อ สำหรับหนูรู้ว่าเราก็พยายามมาตลอดที่เรามาตรงนี้ได้ โอเคคนรู้จักเราส่วนหนึ่ง เพราะว่าเรามีพ่อเป็นคุณโป่ง แต่ส่วนใหญ่ๆ มันก็ต้องมาเพราะเราเองเหมือนกัน ไปออดิชั่นเหมือนทุกคน ไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรกว่าคนอื่น

พี่โป่ง : โอเคคนรู้จักลูก แต่พอดำเนินชีวิตไปก็ต้องเป็นความสามารถของเขาที่จะอยู่ในวงการได้ มันไม่สามารถการันตีได้ว่าพ่อเป็นอย่างนี้แล้วลูกจะต้องเป็นอย่างนี้ได้ มันไม่มีอะไรชัดเจนขนาดนั้น

น้องแองจี้เคยมีความกดดันด้วยเหรอที่เป็นลูกพ่อโป่ง?

แองจี้ : แรกๆ ค่ะ ช่วงที่อยู่กามิกาเซ่ เด็กมาก ใหญ่มากก็กดดันนิดนึง เรากลัวทำได้ไม่ดี แต่พอเราทำงานไปเรื่อยๆ หนูรู้สึกว่าเราทำงานเต็มที่ก็พอแล้ว เราเป็นลูกพี่โป่ง เราก็เป็นคนเหมือนกัน เราก็เรียนรู้ได้ ผิดพลาดได้ พยายามต่อไปเรื่อยๆ  หนูเชื่อว่าทุกคนก็น่าจะเห็นว่าหนูก็พยายาม

ช่วงแรกๆ เหมือนเราแอบพ่อ แอบคือไม่ให้ใครรู้ว่าพ่อเราคือใคร?

แองจี้ : อาจจะไม่ขนาดนั้น เพราะจริงๆ หน้าห็เหมือนกัน แต่ว่าหนูไม่เคยบอกให้คุณพ่อรู้ว่าหนูกดดันแรกๆ  ไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ

ตอนนี้พอได้เป็นศิลปินเต็มตัว คุณพ่อก็สนับสนุนเต็มที่?

แองจี้ : ซัพพอร์ตไหมพ่อ

พี่โป่ง : เต็มที่

เห็นว่าคุณพ่อมีน้อยใจเรื่องการแต่งเพลง?

พี่โป่ง : ไม่ถึงขนาดน้อยใจ ตอนแรกเขาไม่กล้าปรึกษา คือมี 2 กรณี คือเขาเป็นตัวของตัวเอง เขาพยายามสร้างมันด้วยตัวเอง ก็เลยไม่อยากจะปรึกษา เวลามาปรึกษาเราก็อยากจะบอก แต่มันมีบางอย่างจะต้องปรับเหมือนกัน เพราะมันคนละรุ่น วิธีคิดคนละแบบ แต่เราก็ให้คอนเซ็ปต์ในลักษณะว่าถ้าจะไปแต่งเพลง ก็ควรจะแต่งในมุมมองอื่นที่ยังไม่มีคนเขียน มันก็จะดูแปลกออกไป มีคอนเซ็ปต์ที่ดูแตกต่างจากคนอื่น เราก็ให้เป็นไกค์ไป

สไตล์การเลี้ยงลูกของพี่โป่ง เป็นร็อกเกอร์เลี้ยงลูกสไตล์ไหน?

พี่โป่ง : เลี้ยงชิลๆ นะ ไม่ได้บังคับเขา เราแค่ประคับประคอง แต่ด้วยความเป็นห่วง เราก็ส่งแม่ไปคอยสปายว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะเขาเป็นผู้หญิงด้วยกันเขาน่าจะคุยกันได้ บางที บางเรื่องเราดูเหมือนแข็งๆ ไม่สนใจ แต่เราประคับประคองอยู่ข้างๆ 

เคยโดนตีบ้างไหม?

แองจี้ : ไม่นะคะ ส่วนใหญ่เป็นการคุยกันมากกว่า

ไม่ตีเลย แต่ตามในโทรศัพท์มือถือ ติดตั้งแอปที่ลิ้งค์ว่าลูกอยู่ไหน แล้วตามอีก ใส่แมชก์ แว่น และแอบตามไปในที่ที่ลูกไป ใช่ไหมคะพี่โป่ง?

พี่โป่ง : ไปสังเกตการณ์เฉยๆ 

ลูกรู้ไหม?

แองจี้ : ไม่รู้เลยค่ะ

พี่โป่ง : ในโทรศัพท์ตอนนี้รู้แล้ว เพราะตอนนี้เขาปิดโลเคชั่น เป็นห่วงครับ ไม่มีอะไรหรอก

แบ้วเวลาเป็นสปายไปแอบอยู่ตรงไหน?

พี่โป่ง : อยู่ในห้าง ในร้านอะไรอย่างนี้ แล้วก็เดินไปดูผ่านๆ คนเยอะๆ เขาไม่รู้หรอก อยู่กับเพื่อน อ่อ เรียบร้อยดี

อึดอัดไหม เวลากินข้าวกับเพื่อนอยู่ แล้วหันไปเจอพ่อ?

แองจี้ : เอาจริงๆ เพื่อนหนูก็ชอบพ่อ ชอบแม่หนู จริงๆ ที่บ้านชอบให้เพื่อนมาบ้าน คือพ่อแม่สนุก จะเลี้ยงเพื่อนๆ ทุกคนไม่อึดอัด หนูเองก็ไม่ได้อึดอัดก็สนิทกันหมด

พี่โป่ง : ฟังๆ เหมือนพ่อแม่ สะกดรอยตาม ไม่ขนาดนั้นๆ มันเป็นห่วง

เห็นว่าคุณแม่เลี้ยงแบบประคบประหงม?

แองจี้ : ใช่ค่ะ

พี่โป่ง : ก็เยอะ เข้าใจความรู้สึกตอนแรกลูกชายเราไม่คิดมาก เหมือนแม่เป็นผู้ให้กำเนิด แล้วแม่ก็ดูแลตั้งแต่เด็กๆ ดูลูกทุกอย่างไม่ให้ค่ดสายตา พอเริ่มโตขึ้นลูกก็เริ่มเป็นตัวของตัวเอง แต่ความเป็นห่วงก็ยังอยู่ เพราะยังไงพ่อ แม่ก็ยังมองลูกเป็รเด็กตลอดเวลา

ถึงจะเลี้ยงลูกแบบชิลๆ แต่ที่บ้านก็มีกฎ?

พี่โป่ง : จะต้องไม่โกหก คือเวลามีเรื่อง มีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ให้คุยกันตรงๆ เพราะฉะนั้นมันจะแก้ปัญหาได้ไม่ถูกจุด

เรื่องการแต่งตัวมีห้าม มีอะไรไหม?

พี่โป่ง : จริงๆ เขาทันสมัยนะ ชอบแต่งตัวเหมือนคุณแม่เขาก็ตามๆ กันไป บางครั้งเราดูเรื่องโป๊บ้าง เพราะบางทีในสังคมไทย เราก็อยากให้มันเรียบร้อย

เอวลอยได้ไหม?

พี่โป่ง : ตอนแรกไม่ได้ ตอนหลังได้ ตอนแรกเขาใส่ชุดนี้ออกจากบ้าน เราก็แบบว่าเอาอย่างนี้เลยเหรอ เราก็เป็นกังวลแต่พอไปถึง เพื่อนก็ลอยหมดเลย ก็โอเค ไม่เป็นไรเข้าแก๊งไป เราหวังเยอะไปหรือเปล่า มันเป็นแฟชั่น 

น้องแองจี้โอเคไหมกับกฎเหล็กที่ที่บ้านตั้งไว้?

แองจี้ : ก็โอเคค่ะ อย่างเรื่องแต่งตัวก็โอเคค่ะ เพราะคุณพ่อไม่ชอบเราก็ใส่อยู่ดี

พี่โป่ง : จริงๆ ไม่ได้บังคับเยอะหรอก มันอยู่ที่สถานที่ที่ไป

เรามีแอบปิดโลเคชั่นบ้างไหม?

แองจี้ : ปิดยังไงเขาก็รู้ว่าอยู่ไหน พ่อ แม่ ก็จะรู้จักเพื่อนทุกคน คือหนูไม่ได้ไปไหนไกล ส่วนใหญ่หนูก็ไม่ได้ไปไหนไกลอยู่แถว อยู่กับเพื่อน บางทีโทรศัพท์หนูแบตหมด โลเคชั่นค้าง เขาก็ส่งข้อความไปถามเพื่อนหนู

พี่โป่ง : อย่างตอนไปต่างประเทศแล้วแยกกันเดิน เราควรมีแอปที่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เดี๋ยวหลง เราก็ป้องกันไว้ก่อน แล้วก็เอามาใช้ที่เมืองไทยด้วย

เราดูสนิทกัน เราปรึกษาคุณพ่อทุกเรื่องไหม?

แองจี้ : ส่วนใหญ่จะคุยกับแม่ถ้าเป็นเรื่องหยิบหย่อย แต่คุยกับแม่ก็เหมือนคุยกับพ่อ เพราะสุดท้ายแม่ก็ไปบอกพ่อ แล้วทุกคนก็จะรู้กันทั้งบ้าน ที่บ้านเราก็จะเหมือนแชร์กันทั้งบ้าน

พ่อมีห้ามไหมว่าคนนี้ไม่เอา?

พี่โป่ง : ไม่ได้ถึงขนาดว่าห้าม เพราะยังไงก็ต้องมีแฟน แต่ว่ามันถึงเวลาหรือยัง

ตอนนี้ถึงวัยหรือยัง?

พี่โป่ง : มันกำหนดยากนะ มันต้องใช้เวลาดูกันไป

ผู้ชายที่เข้ามาจีบน้องแองจี้ เห็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรื่องเข้ามาถึงหูคุณพ่อ คุณพ่อจะถามว่าใครวะ?

พี่โป่ง : ก็ต้องถามใครวะ ก็ต้องใช้อำนาจนิดหน่อย แล้วแต่ว่าข้อมูลเยอะไหม ถ้าข้อมูลเยอะก็ต้องเสียงดังหน่อย

ไม่ใช่แค่หนุ่มๆ นะ ศิลปินเกาหลี หรือไอดอลเกาหลี แค่น้องแองจี้ไปชม คุณพ่อก็แบบไปชมที่อื่น อย่างนี้เลยเหรอ?

พี่โป่ง : คนมันมองไม่เหมือนกัน เขาอาจจะมองว่าหล่อ  อันนี้ไม่หล่อ มันคนละแบบมันคนละสไตล์

หวงขนาดนั้นเลย?

พี่โป่ง : มันไม่ได้หวงหรอก แซวเล่นมากกว่า

มีกำหนดอายุไหมว่าลูกอายุเท่าไหร่ถึงจะเปิดตัวได้?

พี่โป่ง : ไม่หรอก เรื่องอย่างนี้มันกำหนดไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยควรจะเรียนจบ อย่างน้อยต้องทำงานดูแลตัวเองได้แล้ว รับผิดชอบตัวเองได้

แองจี้โอเคไหม?

แองจี้ : ก็ต้องโอเคแหละ พ่อพูดขนาดนี้ ก็เข้ามจใจในทุมเขา เขาอยากให้เราดูแลตัวเองได้ก่อน เป็นผู้ใหญ่ก่อน แล้วค่อยมี

เห็นว่าพี่โป่งมีบางเรื่อง ไม่เคยคุยกับน้องเลย?

พี่โป่ง : คือจริงๆ ชมเขาแหละ แต่อาจจะไม่ได้พูดกันตรงๆ ผมก็เป็นห่วง เดี๋ยวไปชมความหมายมันอาจจะทำให้เขาหลงระเริง เพราะผมเคยบอกเขาว่าอย่าคิดว่าตัวเองเก่ง เราต้องศึกษา เราต้องพยายาม เพราะคนเก่งเขามีเยอะ แต่จริงๆ ก็ชมเขานั้นแหละ เราแอบภูมิใจอยู่แล้ว

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ โป่ง หินเหล็กไฟ 

https://youtu.be/z2numFUKJlU

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *