“กองร้อยน้ำหวาน” จราจรหญิง เตือนสติดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย ช่วยชุมชนลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์

สสส. สานพลัง ตร.ภูธรภาค4-ตร.ภูธร จ.ร้อยเอ็ด ชู “กองร้อยน้ำหวาน” จราจรหญิง ดูแลชุมชนเคาะหน้าบ้านเตือนสติดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัยเทศกาลปีใหม่2566 ช่วยชุมชนลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ ลดเจ็บลด-สูญเสียเตือนสติผู้ขับขี่-คนใกล้ตัว

ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒน์ พูราษฏร์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรโพนทอง และน.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด อาสา“กองร้อยน้ำหวาน” จราจรหญิงเคาะประตูเตือนถึงบ้าน พร้อมกระเป๋าวิเศษช่วยลดอุบัติเหตุ ภายใต้โครงการขยายผลสร้างความรู้สู่ชุมชนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนสายรอง โดยเครือข่ายเฝ้าระวังอุบัติเหตุจราจร (กองร้อยอาสาจราจร) ตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ กล่าวว่า กองร้อยน้ำหวาน มีการพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีจนมีศักยภาพดูแลคนในชุมชนให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ด้วยความสามารถของสตรีที่มีระเบียบวินัย ขยันอดทน สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง

“กองร้อยน้ำหวานเป็นกำลังหนุนเสริมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีประโยชน์มาก มีความขยันอดทน มีระเบียบวินัย ช่วยเหลือทุกกิจกรรม ทุกงานมหรสพ รวมถึงการตรวจค้นอาวุธเพื่อสร้างความสงบเรียบร้อย ทำให้การตรวจสอบเกิดความนุ่มนวล สร้างพลังการทำงานให้ราบรื่น ตำรวจกองร้อยน้ำหวาน สภ.โพนทอง เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี ช่วยหนุนเสริมให้พื้นที่ชุมชนลดความสูญเสีย ความรุนแรงจากเหตุทะเลาะวิวาทให้น้อยลงด้วย นอกจากนี้ยังช่วยประชาสัมพันธ์รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ ลดความรุนแรง โดยเฉพาะใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด กองร้อยน้ำหวานก็จะมีบทบาท ช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยชุมชนดูแลกวดขันวินัยจราจร สร้างความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน คาดหวังว่าอนาคต จ.ร้อยเอ็ด จะเป็นพื้นที่อบอุ่นปลอดภัย ปลอดอุบัติเหตุ”พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ กล่าว

น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ กล่าวว่า กองร้อยน้ำหวานเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ประสบความสำเร็จในด้านการพัฒนาศักยภาพคนในชุมชนในการดูแลพื้นที่ของตนเอง สามารถช่วยลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในชุมชน พื้นที่ภาคอีสาน 12 จังหวัด ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของตำรวจภูธรภาค 4 มี 144 ตำบล ที่มีกองร้อยน้ำหวานกระจายการดูแลอยู่ ทำให้ชุมชนอบอุ่นเปรียบเสมือนญาติพี่น้อง เกิดการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายจราจร พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนในชุมชน รวมถึงร่วมสร้างสภาพสิ่งแวดล้อมและสังคมให้เอื้อต่อความปลอดภัย

“การมีอาสาจราจรที่เป็นผู้หญิงเข้ามาร่วมปฏิบัติงานกับตำรวจ เป็นไปด้วยความราบรื่น พื้นที่ของ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด พบว่า ใน 72 ตำบล มี 33 ตำบล ที่กองร้อยน้ำหวานเข้ามาช่วยทำงานอุบัติเหตุเป็นศูนย์ และพบว่า 39 ตำบล สามารถลดอุบัติเหตุได้ถึง 70% เป็นบทพิสูจน์ว่ากองร้อยน้ำหวานมีความพร้อมต่อการเป็นผู้นำทางด้านการกวดขันวินัยทางจราจรในพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์แบบเคาะประตูบ้าน บ้านไหนที่พบผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สวมหมวกกันน็อก ก็จะคอยเข้าไปให้ความรู้ แนะนำเหมือนญาติพี่น้องเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นำไปสู่การลดอุบัติเหตุที่มีประสิทธิภาพ” น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ

น.ส.พัดชา พรมเกตุ อาสาสมัครกองร้อยน้ำหวาน สภ.โพนทอง กล่าวว่า กองร้อยน้ำหวานได้ยึดหลักการทำความดีเพื่อตอบแทนสังคม เป็นจิตอาสาโดยไม่หวังผลตอบแทน อาสาส่วนใหญ่ในพื้นที่อำเภอโพนทองจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 40-60 ปี แต่ทุกคนเต็มใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อทำให้คนในชุมชนปลอดภัย แม้จะไม่มีค่าตอบแทน แต่ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมก็รู้สึกอิ่มใจ และเต็มใจ เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนน การปฏิบัติหน้าที่ของเราทำได้ทุกอย่างตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร รักษาความเรียบร้อย ตรวจค้นอาวุธ เคาะประตูบ้านให้คำแนะนำข้อกฎหมายการใช้รถใช้ถนนให้กับคนในชุมชน กองร้อยน้ำหวานทุกคนจะมีกระเป๋าแดง ซึ่งด้านในได้เตรียมเอกสารชุดให้ความรู้การใช้รถใช้ถนน ข้อกฎหมายจราจรและสถิติอุบัติเหตุเพื่อเตือนสติคนในชุมชนให้ระมัดระวังให้ได้มากที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *