พอเข้าหน้าร้อนหลายคนก็อาจวางแพลนจะไปเที่ยวรับซัมเมอร์ที่ไหนดี แต่ในช่วงสถานการณ์ฝุ่นพิษแบบนี้ อาจแว่บไปไหนลำบาก เจอคนเยอะก็ระแวงเจอฝุ่นแยะก็เสี่ยงปอดพัง แต่เมื่อฟีลร่างกายต้องการเดินทางท่องเที่ยว….ทะเล คือคำตอบ สำหรับหลายคนแน่หละ เข้าซัมเมอร์ทั้งทีต้องมีเตรียมชุด จัดคอสตูมเสื้อผ้าหน้าผมไว้ให้พร้อม แต่จะไปเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ระหว่างนี้ก็มานั่งเปิดแอร์เย็นๆ ไล่ดูหนังเก่ารับซัมเมอร์ชิลๆ ไปก่อนก็สบายตัวดี “มหาชนบันเทิง” มีหนังฟีลทะเลๆ ฉากสวยๆ ดูแล้วเหมือนได้ไปนั่งรับลม เดินเหยียบทรายนุ่มๆ ริมชายหาดมาฝากกัน 6 เรื่อง 6 อารมณ์ สามารถหาชมได้ตามแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ จะมีเรื่องอะไรบ้าง เตรียมเครื่องดื่มเย็นชื่นใจตามมาดูกันเลย
- By the Sea (2015) แองเจลีน่า โจลี่, แบรด พิตต์ Location: ประเทศมอลตา
เรื่องย่อ By the sea เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับชั้นยอดของนักแสดงมากความสามารถอย่างอดีตคู่สามีภรรยา แองเจลีน่า โจลี่ – แบรด พิตต์
หนังบอกเล่าเรื่องราวของ ‘โรแลนด์’ (Brad Pitt) นักเขียนชื่อดัง และ ‘วาเนสซา’ (Angelina Jolie) อดีตนักเต้น คู่สามีภรรยาที่ความสัมพันธ์กำลังจืดจาง เนื่องจากโรแลนด์เป็นคนที่เมื่อเครียดจะพึ่งบุหรี่กับเหล้า จึงส่งผลต่อสุขภาพไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ ทุกอย่างจึงก่อปัญหาพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความสัมพันธ์ของโรแลนด์และวาเนสซาดำเนินมาถึงระยะสุดท้าย แต่ก่อนที่มันจะจบลงแบบทางใครทางมัน ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางมาพักผ่อนที่รีสอร์ทริมทะเลในฝรั่งเศส ซึ่งพวกเขาหวังว่า เสียงคลื่น หาดทราย สายลม และบรรยากาศต่างๆ จะช่วยบำบัดรักษาความรัก ประคับประคองความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง หนังเรื่องนี้ใช้โลเกชั่นถ่ายทำที่ประเทศมอลตา ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อากาศดีที่สุดในโลก และยังเป็นโลเกชั่นที่พิตต์กับโจลี่เคยมีความหลังร่วมกัน เมื่อครั้งที่เธอและสามีรับบทคู่กันเรื่องแรกใน Mr. & Mrs. Smith ซึ่งใช้โลเกชั่นที่นี่…ที่ๆ ทำให้ทั้งสองตกหลุมรักกันนั่นเอง
2. Portrait of a Lady on Fire (2019) โนเอมี เมร์ลองต์ ,อเดล เอเนล Location: Saint-Pierre Quiberon, France (หาดแซงต์-ปิแอร์-กีเบอรง ในแคว้นบริตตานี ประเทศฝรั่งเศส)
เรื่องย่อ Portrait of a Lady on Fire เป็นผลงานกำกับและเขียนบทโดยเซลีน เซียมมา ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังนานาชาติที่เมืองคานส์มาแล้ว เรื่องนี้เป็นหนังพีเรียดย้อนยุค เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณช่วงปลายศตวรรษที่ 18
‘มาริยานน์’ เป็นจิตรกรที่ได้รับว่าจ้างให้เดินทางไปที่เกาะแห่งหนึ่งเพื่อวาดภาพเหมือนของหญิงสาวตระกูลร่ำรวยชื่อ ‘เอลูอิส’ เพื่อนำไปใช้ในการดูตัวสำหรับการแต่งงานกับครอบครัวผู้ดีสูงศักดิ์ชาวเมืองมิลาน แต่ภารกิจของมาริยานน์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ช่างเขียนคนก่อนหน้าเธอก็พบกับความล้มเหลวมาแล้วเนื่องจากคุณหนูเอลูอิสไม่ยอมให้ความร่วมมือในการนั่งเป็นแบบให้วาดภาพ เคานต์เตสผู้เป็นแม่จึงวางแผนว่าจ้างมาริยานน์ ให้ทำทีว่ามาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง มารียานน์ต้องแอบวาดภาพในเวลากลางคืน ไม่ก็ระหว่างการออกไปเดินเล่นในทุกๆ วัน มาริยานน์จะคอยสังเกตจดจำใบหน้าของเอลูอิส แล้วทำงานวาดภาพของตนตามที่ได้รับมอบหมาย พร้อมๆ กับปกปิดไม่ให้เอลูอิสได้ล่วงรู้ความจริง แต่ด้วยความใกล้ชิดจึงก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาว 2 คนที่เริ่มก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นรักต้องห้าม และในท้ายสุดความรักระหว่างเพศเดียวกันท่ามกลางยุคสมัยที่สังคมยังไม่เปิดกว้าง และในโลกที่ชายเป็นใหญ่จึงกลายเป็นอุปสรรคหนักหนาเกินกว่าที่ทั้งสองจะก้าวผ่านไปได้ หนังใช้วิธีเล่าเรื่องแบบย้อนกลับ เผยให้เห็นตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงบทสรุปสุดท้ายด้วยวิธีเล่าเรื่องราวได้อย่างนวลเนียน ละมุนละไม ให้คนดูค่อยๆ ละเลียดทั้งบรรยากาศที่เป็นฉากหลังวิวทะเลสวยสงบ ค่อยๆ ดำดิ่งไปกับอารมณ์ของตัวละคร นี่คือหนังที่ให้ฟีลเหมือนกำลังดูงานศิลปะยังไงยังงั้นเลย
3. About Time (2018) โดห์นัลล์ กลีสัน, เรเชล แม็คอดัมส์
Location: Cornwall, UK (คอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ)
หนุ่มทิม เลก (โดห์นัลล์ กลีสัน) พบความจริงว่าเขาสามารถเดินทางข้ามเวลาได้ และทิมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและเคยเกิดขึ้นในชีวิตของเขาเองได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำเรื่องน่าตื่นเต้นมีชีวิตชีวาด้วยการหาแฟน หลังจากทิมย้ายจากคอร์นวอล ไปลอนดอน เพื่อฝึกฝนการเป็นทนายความ ในที่สุด เขาก็ได้พบกับ แมรี่ สาวสวยที่ไม่มั่นใจในตัวเอง พวกเขาตกหลุมรักกัน แต่การเดินทางย้อนเวลาที่ผิดพลาดก็หมายความว่าเขาไม่เคยได้พบเธอเลย ดังนั้นพวกเขาก็เลยได้พบกันเป็นครั้งแรกอีกครั้ง และก็อีกครั้ง และท้ายที่สุด หลังจากการเดินทางข้ามเวลาหลายครั้งหลายหนเพื่อตามแก้ไขความผิดพลาดต่างๆ ให้เหตุการณ์ออกมาดีที่สุด เขาก็เอาชนะใจเธอได้สำเร็จ จนถึงวันที่ทั้งคู่แต่งงานกัน แต่ก็กลับมีพายุฝนถล่มลงมาจนเกือบล่มไม่เป็นท่า ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านั้น ทิมคงจะย้อนเวลากลับไปเปลี่ยนวันจัดงาน หรือไม่ก็ไปจัดงานที่อื่น แต่ตอนนี้เขากลับเลือกที่จะไม่ย้อนเวลากลับ และหันมามีความสุขกับวันแสนประทับใจที่สุดของเขาอีกวันหนึ่งในชีวิต
ช่วงท้ายของหนังถ่ายทอดเรื่องราวความอบอุ่นระหว่างพ่อกับลูกมีฉากหลังเป็นท้องทะเลกว้าง เหมือนเป็นการตอบคำถามของทิมที่ได้เรียนรู้บทเรียนในการใช้ชีวิตที่แท้จริงว่า เขาไม่จำเป็นจะต้องย้อนเวลากลับไปแก้ไขทุกอย่าง แม้เป็นวันที่แย่ที่สุดก็ตาม เพียงแค่ใช้ชีวิตทุกวันให้ราวกับว่าได้กลับมาแก้ไขมันแล้ว และมีความสุขกับมันให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายในชีวิตแค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว
4. Submarine (2010) เครก โรเบิร์ต, ยัสมิน เพจ
Location: แคว้นเวลล์ ประเทศอังกฤษ
เรื่องย่อ หนังรักสไตล์อินดี้จากเกาะอังกฤษที่ได้ Ben Stiller มาอำนวยการสร้าง เป็นแนว coming of age เรื่องราวของ โอลิเวอร์ เทต เด็กหนุ่มหน้ามนคนเวลส์ วัย 15 ผู้คิดว่าตัวเองแปลกแยกจากวัยรุ่นคนอื่นๆ เขากำลังเผชิญสองเหตุการณ์สำคัญในชีวิตวัยรุ่นวุ่นๆ ของเขา นั่นก็คือการเริ่มริรักกับสาวร่วมชั้นไฮสคูล รร.เดียวกัน และการพยายามแทรกแซงเพื่อประคองชีวิตคู่อันแสนเย็นชาระหว่างพ่อแม่ของตนให้รอด
หนังเล่าถึงชีวิตอันแสนปกติแบบแปลกๆ เพี้ยนๆ ของเด็กหนุ่มหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมที่กำลังตกหลุมรักกับสาวนิสัยประหลาดพอกันนาม จอนาดา (Yasmin Paige) ทั้งสองวางแผนว่าจะมีเซ็กซ์กันก่อนวันเกิดปีหน้าของโอลิเวอร์ ชีวิตของจอนาดามีแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ขณะที่โอลิเวอร์ก็มีพ่อป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และแม่ที่กำลังจะกลับไปจี๋จ๋ากับแฟนเก่า ทำให้เขาต้องคอยกันท่าเพื่อรักษาครอบครัวให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา โอลิเวอร์มักชอบตั้งคำถามกับชีวิตและหมกมุ่นเรื่องความตาย หลายฉากในหนังเรื่องนี้มีทะเลเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นฉากหลังที่มีความหมายทั้งเหงา เศร้า สับสน และการเริ่มต้นใหม่ๆ
5.Moonrise Kingdom (2012) จาเร็ด กิลแมน และ คารา เฮย์เวิร์ด
Location: Conanicut Island , Jamestown, Rhode Island (เกาะคอนานิคัต เจมส์ทาวน์ รัฐโร้ดไอส์แลนด์ สหรัฐ)
เรื่องย่อ หนังร่วมสมัยที่มีเอกลักษณ์ที่ถือเป็นลายเซ็นของ เวส แอนเดอร์สัน ผู้กำกับที่มีสไตล์เฉพาะตัว แถมเขายังระดมนักแสดงระดับซุปตาร์ฮอลลีวู้ดมาได้แบบแน่นๆ อย่าง บรูซ วิลลิส, เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน, บิล เมอร์เรย์, ฟรานซิส แม็คดอร์มานด์, ทิลดา สวินตัน
เรื่องราวเกิดขึ้นบนเกาะนอกชายฝั่งนิวอิงแลนด์ในฤดูร้อนปี 1965 บอกเล่าเรื่องของเด็กใสๆ วัย 12 ขวบสองคนที่ตกหลุมรักกัน ทั้งคู่แอบทำสัญญาลับด้วยกันและหนีตามกันไปอยู่ในป่าบนเกาะ ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายพยายามตามหาตัวพวกเขา พายุรุนแรงก็พัดเข้าโจมตีชายฝั่ง และทุกอย่างในเกาะที่สงบสุขแห่งนี้ก็เปลี่ยนไป เด็กมีปัญหาสองคนมาจากครอบครัวที่ต่างก็ไม่สมบูรณ์แบบ การหนีของเด็กทั้งสองจึงเป็นการเติมเต็มกันและกันเพื่อสร้างพื้นที่ภายในและภายนอกของกันและกัน แต่ก็นะ…โลกแฟนตาซีของทั้งสองกลับถูกก่อกวนด้วยโลกของผู้ใหญ่ในเมือง Moonrise Kingdom ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ยุ่งเหยิง เจ้ากี้เจ้าการจนน่ารำคาญ อันเป็นภาพสะท้อนของสถาบันต่างๆ ในสังคมที่หนังเรื่องนี้ต้องการเสียดสีเย้ยหยันนั่นเอง
6.Café Society (2016) เจสซี ไอเซนเบิร์ก และ คริสเตน สจ๊วต
Location: หาดมาลิบู เมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ
เรื่องย่อ เขียนบทและกำกับโดย วู้ดดี อัลเลน เป็นเรื่องราวในยุค 1930 เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้ย้ายจากนิวยอร์คไปอยู่ที่ฮอลลีวู้ดเพื่อตามหาฝันของตัวเอง ในช่วงที่เป็นยุคทองของฮอลลีวู้ด หนุ่มบ๊อบบี้ ( เจสซี ไอเซนเบิร์ก) ใฝ่ฝันอยากจะเป็นผู้จัดการดาราเลยมาฝึกงานกับคุณอา แต่ดันไปตกหลุมรัก วอนนี่ (คริสเตน สจ๊วต) เลขาสาวของคุณอาซึ่งเป็นผู้จัดการดาราคนดังแห่งฮอลลีวู้ด และคุณเลขาฯ ของอาคนนี้ก็ทั้งสวยและฉลาดดึงดูดใจ แถมยังจุดประกายความคิดขบถของเขาให้เจิดจ้าไปอีก
ทั้งสองสวีทหวานมีช่วงเวลาดีๆ ต่อกันท่ามกลางบรรยากาศชายหาดมาลิบู แต่เรื่องมันเศร้าก็ตรงที่เธอดันมีคนรักซะแล้ว หนุ่มยิวช่างฝันอย่างบ๊อบบี้เลยใจสลาย แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไปนี่นะ ถึงจะอกหักรักคุดแต่เขายังต้องเดินหน้าทำตามฝันของตัวเองต่อไป.