เผยนายกฯ สั่งถอนวาระรถไฟฟ้าสายสีส้มออกจากที่ประชุมครม.ด้าน “อนุทิน” ยัน ยังไงก็ต้องสร้าง การถอนวาระไม่เกี่ยวกับ กรณี “ชูวิทย์”ออกมาแฉ ทุจริตแต่ครม.กังวล เรื่องข้อกฎหมาย
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการพิจารณาวาระรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่า “ในที่ประชุมมีการอภิปรายเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตัดสินใจที่จะถอนวาระนี้ออกไป โดยให้เหตุผลว่า ยังมีโอกาสที่จะพิจารณาและอนุมัติ เรื่องนี้ได้ พร้อมทั้งยังมีรัฐมนตรีหลายท่านได้แสดงความคิดเห็น จึงให้บันทึกในที่ประชุมว่า ไม่เห็นชอบที่จะนำเข้ามาพิจารณา ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับฟังทุกคน จึงต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ตัดสินใจให้กระทรวงคมนาคม ถอนเรื่องนี้ออกไป
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึง การพิจารณาโครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่า นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ถอนวาระดังกล่าวออกจากที่ประชุม ในฐานะเจ้าของเรื่อง หากเห็นว่ายังไม่สมควรดำเนินการต่อ ก็มีสิทธิ์ที่จะถอนวาระได้ และเห็นว่าเหตุผลการถอนวาระเนื่องจาก การรับฟังจากส่วนราชการ และรัฐมนตรีหลายคน อาจจะใช้วิจารณญานในการถอนเรื่อง ซึ่งคณะรัฐมนตรีไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้
เมื่อถามว่าจะมีการนำวาระนี้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะมีอีกเหรอ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่กระทรวงคมนาคม เพราะสัปดาห์หน้าก็ยังมีการประชุมคณะรัฐมนตรี
ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นไปได้ ว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้จะเป็นการประชุมนัดสุดท้าย ก่อนจะมีการยุบสภา อีกครั้งนายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับเรื่องใดเป็นพิเศษ หากมีการประชุมคณะรัฐมนตรีหลังการยุบสภา ก็จะเป็นคณะรัฐมนตรีรักษา จนกว่ารัฐบาลใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก็ยังมีการประชุมคณะรัฐมนตรีทุกสัปดาห์นายอนุทินยัง กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถนำวาระโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมาพิจารณาอนุมัติได้จะต้องรอรัฐบาลหน้าเป็นผู้พิจารณา แต่กระบวนการประมูลยังอยู่ แต่หากไม่ลงนาม ก็ไม่สามารถที่จะเริ่มก่อสร้างได้
พร้อมย้ำว่า เหตุที่คณะรัฐมนตรีถอนวาระดังกล่าวออกไป ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการทุจริตในโครงการนี้ แต่ในคณะรัฐมนตรีมีความกังวล เรื่องข้อกฎหมาย แต่คดีความที่ค้างอยู่ แม้บางคดีมีการตัดสินแล้วแต่ยังมีการอุทรณ์อยู่ ซึ่งยังไม่มีคำพิพากษาลงมา ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้คณะรัฐมนตรีบางท่าน กังวลและถอนออกไป มาจากความเห็นของส่วนราชการมากกว่า เช่นความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ ที่ให้ความเห็นมาว่า ควรรอให้มีคำพิพากษาก่อน ซึ่งหากเกินกรอบระยะเวลาที่กำหนดก็จะต้องมีการประมูลใหม่ ซึ่งปกติมีการดิวราคาแล้ว แล้วกระบวนการยังไม่เสร็จ หน่วยงานมีสิทธิ์ทำหนังสือไปยังผู้เข้าประกวดราคา ว่ายินดีขยายกรอบระยะเวลาการดิวราคา 3-9 เดือน หรือแล้วแต่จะตกลงกัน หรือหากไม่ดิวแล้วก็มารับซองคืน
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ย้ำว่า อย่าไปซีเรียส รัฐบาลนี้ไม่จบก็ต้องส่งไปรัฐบาลหน้า พร้อมยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องสร้าง