เตรียมรวบแฮกเกอร์“9near”ผู้ต้องหาฉก 55 ล้านข้อมูล รมว.ดีอีเอสเผยโทษหนักสุดจำคุกร้อยปี

ขอหมายเตรียมบุกจับแฮกเกอร์  “9near” ผู้ต้องหาล้วง 55 ล้านข้อมูลคนไทย พบเป็นทหารบกสังกัดย่านนนทบุรี ด้านรมว.ดีอีเอส ย้ำ โทษหนักจำคุกสูงสุดร้อยปี 

หลังจากแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อ “9near” ออกมาขู่ที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านราย โดยอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทยนั้น ล่าสุดพนักงานสอบสวนกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป (Hacker) โดยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ประกอบไปด้วย เลขบัตรประจำตัวประชาชน, ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด,ที่อยู่, และหมายเลขโทรศัพท์ สอดรับกับการที่สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไชเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) พบเนื้อหามีการโพสต์จำหน่ายข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบไปด้วย เลขบัตรประจำตัวประชาชน,ชื่อ-นามสกุล, วัน เดือน ปี เกิด , ที่ อยู่, และหมายเลขโทรศัพท์

โดยชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ นายเขมรัตน์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.978/2566 ลงวันที่ 2 เม.ย.66 ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน”สำหรับผู้ต้องหาปัจุบันรับราชการเป็นทหารบกชั้นประทวน อยู่ใน จ.นนทบุรี และมีความใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญซึ่งเป็นนักการเมืองรายหนึ่ง

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้คุมตัวภรรยาขอผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นพยาบาล รพ.แห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ มาสอบถามเพื่อให้ได้ข้อมูลว่าเป็นการจงใจหรือเป็นความคึกคะนองตามที่อ้างหรือไม่ นอกจากนี้หากพบว่าแฟนสาวมีความเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า “ปัจจุบันมีกฎหมาย PDPA ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีคนร้ายขโมยข้อมูลและนำข้อมูลไปใช้อย่างผิดกฎหมายจะมีโทษ ขณะเดียวกันผู้ที่นำข้อมูลจากคนร้ายนำไปเผยแพร่หรือใช้ต่อจะมีโทษด้วย ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลตนเองกับผู้ที่ไม่รู้จัก ขณะเดียวกันก็ควรระวังการตั้ง username and password ไม่ควรใช้เลขที่บัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิดหรือเบอร์โทรศัพท์ และขอย้ำเตือนว่าเรามีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและลงโทษแฮกเกอร์หลายฉบับ ผู้กระทำความผิดก็จะมีโทษหนักโดยอัตราโทษที่เกี่ยวข้องกับกรณี 9near จะมีความผิดตาม พรบ. คอมพิวเตอร์ ฯ โทษสูงสุด จําคุก 5 ปี และการนําข้อมูล ส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจถูก จําคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้าน บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ต่อ 1 กรรม หรือต่อผู้เสียหาย 1 คน ได้ ซึ่งทําให้คนร้ายอาจถูกลงโทษจําคุกเป็น ร้อยปีได้ขึ้นกับข้อเท็จจริง และข้อมูลที่นําไปใช้กระทําผิดกฎหมายหรือเผยแพร่ทําให้ผู้อื่นเสียหาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *