ใกล้วันเลือกตั้งเข้ามาทุกที แต่ยังคงมีเสียงวิจารณ์การทำงานของ ‘คณะกรรมการการเลือกตั้ง’ หรือ กกต. ที่สร้างความสับสนให้กับประชาชนได้อย่างคงเส้นคงวา จากความเปลี่ยนแปลงหลายประการที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ซึ่งแทนที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากที่สุด แต่กลับเจอ “ทริค” บัตรสองใบ ที่ประชาชนต้องระวังกาผิดเบอร์!
การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ จะใช้ระบบที่ต่างออกไปจากที่เคยใช้ในการเลือกตั้งในปี 2562 โดยนอกจากสูตรคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ที่เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งสำคัญอีกหนึ่งประการคือประชาชนจะได้รับบัตรเลือกตั้ง “สองใบ” เมื่อเดินเข้าคูหาเลือกตั้ง จากที่ครั้งก่อนมีเพียงใบเดียว
การกลับมาของบัตรสองใบนี้มาควบคู่กับสูตรคำนวณที่นั่งบัญชีรายชื่อให้กลับมาเป็นระบบการคิดคำนวณแบบคู่ขนานหรือ MMM (Mixed member majoritarian system) แทนการใช้บัตรใบเดียวและสูตรคำนวณแบบพิสดารตาม “สูตรมีชัย” ที่เต็มไปด้วยข้อครหาที่ปฎิเสธไม่ได้ว่าบิดเบือนเสียงของประชาชน
เลือกตั้งครั้งนี้มีการเพิ่มสัดส่วนของ ส.ส. เขตเป็น 400 คน และลด ส.ส. บัญชีรายชื่อให้เหลือเพียง 100 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ 2540 ด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้งในสนามเขต จึงมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพราะพรรคใดก็ตามที่สามารถยึดกุมพื้นที่เขตเอาไว้ได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องจำให้ดีและกาให้ถูกตามที่ตั้งใจไว้ คือ “วิธีจำและกาเบอร์ที่รักกับพรรคที่ชอบ” ทีมข่าวมหาชน มาช่วยแจกแจงวิธีจำง่ายๆ ให้แล้วดังนี้ เริ่มจากการจำ…
บัตรสีม่วง เลือก ส.ส.แบ่งเขต
บัตรสีเขียว เลือกพรรค (บัญชีรายชื่อ)
วิธีจำ : ให้จำแค่เบอร์ ส.ส.เขตที่ท่านอยู่(เลือกคนที่รัก) กาลงในบัตรม่วงที่มีแต่ตัวเลข ส่วนบัตรเขียวที่มีชื่อพรรคกับโลโก้ กาง่ายๆ คือ เลือกพรรคที่ใช่ตามชอบ
แล้วมาจับตาการเลือกตั้งครั้งสำคัญนี้ ช่วยกันเฝ้าระวัง “กลโกง” ในทุกพื้นที่ เพื่อให้ผลคะแนนเลือกตั้งออกมาอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นไปตามความต้องการของเสียงคนส่วนใหญ่ในประเทศจริงๆ เสียที!