ถือเป็นชัยชนะของนักแสดงคนหนึ่งที่กล้าออกมาคอลเอาท์เพื่อประชาธิปไตย แสดงเจตจำนงค์ต้านอำนาจเผด็จการ จนถูกช่องต้นสังกัดแบน แต่ในที่สุด “หมิว สิริลภัส” ดาราสาวผู้ก้าวมาเป็น ส.ส. ก็ได้รับเลือกตั้งมาด้วยคะแนนท่วมท้น เดินเข้าสู่สภาในฐานะ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติอย่างสง่างามเต็มภาคภูมิในวันนี้!
มาทำความรู้จักกับนักแสดงสาวอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากในช่วงการเลือกตั้ง 66 ที่ผ่านมา สำหรับอดีตนางร้ายหน้าคม “หมิว-สิริลภัส กองตระการ” ที่ได้ผันตัวมาลงสมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ สังกัดพรรคก้าวไกล ซึ่งผลคะแนนของเธอได้สร้างความฮือฮาเพราะสามารถล้มช้างบ้านใหญ่จากพรรคคู่แข่งแซงลิ่วมาเป็นอันดับ 1 แบบทิ้งห่างนับหมื่นกว่าคะแนน
สำหรับประวัติของ “หมิว สิริลภัส” ปัจจุบันอายุ 36 ปี เธอจบปริญญาตรี โดยคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจบปริญญาโท สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 หมิวเคยเข้าประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ ประจำปี 2003 ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 รวมถึงเคยเข้าประกวดเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2552 ผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้าย หลังจากนั้นจึงเข้าสู่วงการบันเทิง ในฐานะนักแสดงตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา หมิวมีผลงานละครและซีรีส์กว่า 40 เรื่อง ภาพยนตร์ 3 เรื่อง งานพิธีกร 8 รายการ ส่วนภาพจำของคนดูคือ บทบาทนางร้ายกับภาพความเซ็กซี่ และการตกเป็นข่าวต่างๆ เกี่ยวกับความรัก จนมาถึงการออกมาคอลเอาท์วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเผ็ดร้อน จนเป็นเหตุให้ทางต้นสังกัดอย่างช่อง 7 ออกมาตักเตือน ก่อนตัดสินใจส่งหนังสือยกเลิกสัญญา ซึ่งหมิวก็ยืดอกยอมรับผลที่ตามมาเหล่านี้อย่างอดทน
ต่อมา วันที่ 28 ธันวาคม 2565 หมิวได้เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล และประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 14 พื้นที่บางกะปิและวังทองหลาง กทม. ด้วยความขยันลงพื้นที่หาเสียง แม้เป็น ส.ส.น้องใหม่ แต่หมิวสามารถอธิบายนโยบายของพรรคได้อย่างฉะฉานชัดเจน และโดดเด่นเป็นพิเศษบนเวทีดีเบตในทุกเวที เธอสามารถดีเบตและปราศรัยได้อย่างลื่นไหล ตอบทุกคำถามได้อย่างไม่ติดขัด จนในที่สุดก็ได้รับความไว้วางใจจากชาวบางกะปิ ด้วยคะแนนเสียงถึง 42,187 ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากกระแสอันร้อนแรงของพรรค และอีกส่วนคือได้มาด้วยความสามารถและความอุตสาหะของเธอเองที่ทำให้ได้รับชัยชนะในสนามเลือกตั้งครั้งนี้
ล่าสุด หมิวได้เข้าร่วมในรัฐพิธีเปิดประชุมสภา ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เธอได้โพสต์และทวิตข้อความลงในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ขอพูดใน 2 บทบาท คือบทบาทในฐานะของ “ผู้แทนราษฎร” ที่กำลังจะได้เริ่มทำงานเพื่อขับเคลื่อนในประเด็นต่างๆ และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ สร้างอนาคตที่ดีให้ลูกหลาน สร้างบ้านที่น่าอยู่ให้พวกเขา และสร้างสังคมที่ “คนเท่ากัน” หมิวจะทำงานอย่างเต็มที่ในสภาและจะทำการบ้านอย่างหนักเพื่อไม่ให้ทุกคะแนนเสียงที่ได้รับมาผิดหวัง ส่วนบทบาทที่สอง ในฐานะของ “ลูกสาว” คนหนึ่ง เธอบอกว่า ครอบครัวภูมิใจที่หมิวได้มาทำงานเป็นผู้แทนราษฎรในวันนี้ คุณพ่อของเธอในฐานะข้าราชการบำนาญได้บอกเธอว่า สภาผู้แทนราษฎรนี้มีเกียรติ จงทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เต็มความสามารถ โดยเธอจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่อย่างสุดกำลัง เพื่อทุ่มเทให้กับอาชีพนี้ไม่แพ้อาชีพอื่นๆ ที่เคยทำมา.