จีน-พม่ามาแรงคนรวยสองชาติรุกตลาดอสังหาฯไทยแรงมาก จับตาจังหวัดดัง กทม.-ปริมณฑล –ชลบุรี ถูกจับจองหลายโครงการ ล่าสุดผุดโครงการทำเลทองติดแม่น้ำเจ้าพระยาแถบสนามบินน้ำ รับเศรษฐีจากจีน ด้านศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุ พม่าอีกชาติที่มาแรงระดับพรีเมี่ยมแห่ซื้ออสังหาฯ ในไทย ขณะที่สมาคมอสังหาฯชี้มีมานานแล้ว
จากความกังวลของหลายฝ่าย เกี่ยวกับการเข้ารุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ของนายทุน และชาวจีน ที่เข้ามารุกคืบในหลายๆ พื้นที่ โดยเฉพาะ ในพื้นที่แถบห้วยขวางที่เคยเป็นที่ตั้งข้อสังเกตุของหลายฝ่าย โดยเฉพาะ จาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่เคยนำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผย โดยเฉพาะการเข้าของทุนจีนในการเข้ามาซื้ออสังหาฯ พร้อมกับทำธุรกิจในหลายๆ พื้นที่ทั่วกทม.
ล่าสุด เพจดังในเฟสบุ๊ค ออกมาเปิดเผยถึงที่ดินแปลงงามย่านสนามบินน้ำ ใกล้กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่กว่า 30 ไร่ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ที่ถูกระบุว่า เป็นที่ดินที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัททุนข้ามชาติจากประเทศจีน โดยในเพจดังกล่าวระบุว่า เป็นการสร้างคอนโดนระดับพรีเมี่ยม เพื่อรองรับกับชาวจีนในระดับเศรษฐี
โดยเพจ The Politan service center เปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดของ โครงการดังกล่าว โดยสรุปดังนี้ “นายทุนจีนมาทำหมู่บ้านหลังละ100ล้าน มาแบบนี้ ใครมีห้องหน้าแม่น้ำ River front ที่แมเนอร์ กับ โพลิแทน เตรียมขึ้นราคากันได้เลย เป๋าตุงแน่นอนครับ” ซึ่งเพจดังกล่าวยังได้โพสต์ภาพและพิกัดของโครงการดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน
เกี่ยวกับการเข้ามาของทุนต่างชาติในวงการอสังหาริมทรัพย์ และการเข้ามารุกคืบในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย ที่ไม่เฉพาะทุนจีนเท่านั้น แต่ยังมีหลากหลายชาติที่เข้ามาบทบาทในเรื่องของการซื้อขาย หรือ อยู่อาศัยในโครงการใหญ่ๆ ของไทย ทั้งบ้านเดี่ยว และ คอนโดมิเนียม
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “การที่นักพัฒนาอสังหาฯจากประเทศจีนเข้ามาพัฒนาโครงการในประเทศไทยนั้น มีมานานแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ที่ในจังหวัดเป็นเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ โดยจัดตั้งบริษัทตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีคนไทยถือหุ้น 51% และคนจีน 49%”
นอกจากทุนจีนแล้ว ยังมีทุนหลากหลายชาติที่เข้ามามีบทบาทในวงการอสังหาฯ ของไทย สูงขึ้นเรื่อยๆ อาทิ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ขณะที่ข้อมูลที่น่าสนใจจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC โดย ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการ REIC ระบุว่า “ภาพรวมสถานการณ์การโอนคอนโดฯ ของชาวต่างชาติ โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 หน่วยโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ของคนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 3,775 หน่วย เพิ่มขึ้น 79.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
และในด้านมูลค่า ก็คิดเป็นถึง 17,128 ล้านบาท ก็เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 67.6% กลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯ มากที่สุด ยังคงเป็น กลุ่มลูกค้าชาวจีน ซึ่งมีมูลค่าการซื้อรวม 8,191 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยประมาณ 4.7 ล้านบาทต่อห้อง
โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 นี้ 5 อันดับประเทศแรก ที่ซื้อห้องคอนโดฯ มากที่สุดคือ จีน 46.3%รัสเซีย 10.3% สหรัฐอเมริกา 4.1% สหราชอาณาจักร 4.9% และเยอรมัน 3.5%ที่น่าสนใจคือ กลุ่มลูกค้าชาวพม่า เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้อง ราคาแพงที่สุด จากมูลค่าโดยเฉลี่ย ซึ่งมากถึง 6.5 ล้านบาทต่อหน่วย ส่วนกลุ่มลูกค้าชาวอินเดีย เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้องขนาดใหญ่ที่สุด เห็นได้จากขนาดห้องเฉลี่ยที่ถูกซื้อ มากถึง 77.7 ตารางเมตร แล้วชาวต่างชาติ ชอบซื้อคอนโดฯ ระดับไหนมากที่สุด ?
จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของ REIC พบว่าในไตรมาส 1 ปี 2566 ชาวต่างชาติชอบซื้อคอนโดฯ มูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทมากที่สุดโดยมีมูลค่าการซื้อรวมกันประมาณ 3,400 ล้านบาท จำนวน 1,900 หน่วย คิดเป็น 50.3% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด
สำหรับจังหวัดที่ต่างชาติ เลือกซื้อคอนโดฯ มากที่สุด ก็คือ จังหวัดชลบุรี โดยมียอดซื้อจำนวน 1,601 หน่วยแต่หากไปดูที่มูลค่า จะพบว่า กรุงเทพมหานคร มีมูลค่าการซื้อมากที่สุด คือ 9,976 ล้านบาทซึ่งทั้งกรุงเทพมหานคร และชลบุรี คิดเป็น 84.8% ของมูลค่าการซื้อของทั้งประเทศ
เครดิตภาพจากเพจ The Politan service center
เพจ REIC – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
และ เพจ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย