วันนี้(12 ก.ค.) กกต. มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาล รธน.วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา จากกรณีหุ้นไอทีวี รวมทั้งมีคำขอให้ศาล รธน.พิจารณาสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้าน “ชัยธวัช” แถลงโต้ กกต.ทำไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ฝั่ง “ด้อมส้ม” เรียกรวมพลแล้วทั่วประเทศ!!
หลังใช้เวลากว่า 3 วัน รับฟังและพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงาน กกต.เห็นว่ามีข้อมูลพยานหลักฐานเพียงพอให้เชื่อว่ามีเหตุตามที่มีการยื่นคำร้องจริง โดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ได้ลงนามในคำร้องและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ นำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญทันทีในเช้าวันนี้
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีการนัดประชุมประจำสัปดาห์วันนี้ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งต้องจับตามองว่าสำนักงาน กกต.จะส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญทันหรือไม่ และหากทันคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการนำคำร้องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาเลยหรือไม่
ส่วนปฏิกิริยาจากพรรคก้าวไกล เวลา 12.20 น.วันนี้ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แถลงต่อสื่อว่า การที่กกต. มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย พรรคเห็นว่าในกรณีนี้ กกต.ดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอนที่ควรจะเป็นระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวนและชี้ขาด
การที่กกต.ส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 72 ไม่สามารถเทียบเคียงกับยุบพรรคอนาคตใหม่ เราเห็นว่ากกต.ต้องปฏิบัติตามระเบียบให้ครบถ้วน การที่กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญอย่างรีบเร่ง ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหามาที่ นายพิธา และไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เท่ากับ กกต.เลือกปฏิบัติตามระเบียบเพียงบางส่วนและจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามที่ตนเองตราไว้ อาจเป็นการทำผิดหรือละเว้นการปฏิบัติ ตามมาตรา 157 กรณีนี้มีข้อสังเกตได้ว่า ทำไมกกต.จึงรีบเร่งดำเนินการในคดีหุ้นไอทีวีอย่างผิดปกติ ทั้งที่เรื่องหุ้นไอทีวี มีข้อพิรุธและถกเถียงว่าไอทีวียังดำเนินธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ จงใจจัดทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นและเอกสารงบการเงินไม่ตรงตามข้อเท็จจริง แต่กกต.รีบประชุม 3 วัน ทันทีที่ได้รับเรื่อง เพื่อเร่งสรุปให้ได้ มีข้อมูลพยานหลักฐานเพียงว่า นายพิธา มีความผิดตามที่ยื่นคำร้องจริง
เรื่องนี้ตนทราบว่ากกต.เชิญผู้บริหารไอทีวีชี้แจงกกต.แล้ว และผู้บริหารไอทีวีให้ข้อมูลกับกกต.ว่า ไอทีวีไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ ดังนั้น แม้กกต.อ้างเหตุผลว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหากับนายพิธา เพื่อให้นายพิธามาชี้แจงก่อน แต่คำถามคือ กกต.มีเวลาเชิญไอทีวีชี้แจง แล้วกกต.มีเหตุผลอะไรที่รับฟังว่าจะไม่ยอมเสียเวลาให้ นายพิธา รับทราบข้อกล่าวหาและมีโอกาสชี้แจงได้บ้าง เพื่อให้กกต. พิจารณาข้อเท็จจริงได้อย่างรอบด้านเป็นธรรม หากผู้บริหารไอทีวี ชี้แจงกกต.จริงว่าไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ กกต.ใช้หลักฐานอะไรนำไปสู่ข้อสรุปว่านายพิธา มีความผิดตามที่ยื่นคำร้องจริง เพื่อรีบเร่งให้ได้ ความรีบเร่งผิดปกติเห็นได้จากเมื่อเช้านี้ กกต.มีมติตอนเช้า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. รีบเซ็นเอกสารยื่นศาลรธน.ทันที เพื่อให้ทันประชุมตอนบ่าย นายชัยธวัชได้ตั้งคำถามถึง กกต.ว่า มีเจตนาส่งลูกให้ศาลรัฐธรรมนูญ นำเรื่องเข้าที่ประชุมทันทีในบ่ายวันนี้ เพื่อให้ นายพิธา ถูกสั่งยุติหน้าที่ส.ส. ก่อนโหวตนายกฯในวันที่ 13 ก.ค.ใช่หรือไม่ และกล่าวในตอนท้ายว่า “อยากเรียนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา โดยใช้นิติสงคราม บทบาทขององค์กรอิสระต่างๆ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญถูกตั้งข้อสงสัยมาตลอดว่า ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มการเมืองใดหรือไม่ กรณีที่เกิดขึ้นวันนี้และหลังจากนี้อีกไม่นานจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า ข้อกล่าวหาเหล่านั้นจริงหรือไม่” พร้อมฝากเสียงเตือนไปยังกกต.และองค์กรอิสระทั้งหมดว่า ท่านอย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต
โดยพรรคยังยืนยันจะเสนอชื่อ นายพิธา เป็นนายกฯคนที่ 30 และนายพิธา ยังมีสิทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ในฐานะแคนดิเดตนายกฯและผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงจากอันดับ 1 ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ความชอบธรรมที่สูงสุดคืออำนาจประชาชน พรรคก้าวไกลมีหน้าที่รับผิดชอบต่อเสียงของประชาชนที่มอบให้ เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดอย่างสุดความสามารถ เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการไม่เห็นหัวประชาชน และประชาชนคงจะไม่ยอมอย่างแน่นอน
ด้านความเคลื่อนไหวของ “ด้อมส้ม” เหล่าผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ได้มีการนัดหมายรวมตัวแสดงพลังกันแล้วทั่วประเทศผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย โดย นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “เขาประกาศนิติสงครามแล้ว!!!” พร้อมแนบลิงก์เพจต่างๆ โดยปรากฎโพสต์ข้อความนัดหมายต่อต้านมติของกกต.ในจังหวัดต่างๆ อาทิ อุบลราชธานี , สุรินทร์ , เชียงใหม่ และนครราชสีมา ดังนี้
เฟซบุ๊กคบเพลิง โพสต์ว่า “วันนี้ 18.00 น. ขอเชิญชวนทุกท่านรวมตัวกัน หน้าคณะรัฐศาสตร์ ม.อุบลฯ แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง กกต.ให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หยุดปฏิบัติหน้าที่และส่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน #ม็อบมออุบล #ปราศรัยด่าเท่านั้น”
เฟซบุ๊ก Surin Movement “เย็นนี้มาร่วมแสดงพลังไม่เห็นด้วยกับ กกต. ที่มีมติยื่น #ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ #พิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.! เวลา 16.00 น. ณ อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ ศาลากลางหลังเก่า”
เฟซบุ๊ก ประชาคมมอชอ – Community of MorChor “เกียมรองเท้าผ้าใบ หมวก ร่ม เสื้อกันฝนให้พร้อม รอฟังสัญญาณค่ะ”
นอกจากนี้ในเพจของพรรคก้าวไกล ยังโพสต์เชิญชวนให้มวลชนออกมาร่วมสนับสนุน “พิธา” เป็นนายกฯ โดยระบุข้อความดังนี้ ก้าวไกลขอเชิญทุกคนร่วมทำภารกิจด่วน! “พฤหัสสีส้ม” เชิญชวนทุกคนร่วมใส่เสื้อผ้าสีส้ม ติดสัญลักษณ์ ร่วมสื่อสารทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสนับสนุนให้รัฐสภาลงมติโหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ให้สำเร็จโดยทุกคนสามารถออกมาร่วมติดตามผลการโหวตของรัฐสภาได้ที่แต่ละจุดใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ แต่หากใครอยู่กรุงเทพ เราชวนทุกท่านมาร่วมติดตามกันที่รัฐสภา แยกเกียกกาย ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 โดยพร้อมเพรียงกัน