“เศรษฐา” ผ่านฉลุย! 482 เสียง นั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 ท่ามกลางข่าวลือ สว.รับกล้วยแลกโหวตนายกฯ

“เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ผ่านฉลุย! มติที่ประชุมรัฐสภาโหวตท่วมท้น 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียงจาก 705 เสียง ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทยไปแบบขาดลอย ขณะที่ สว.“วิวรรธน์” แฉกลางสภา กรณีมีข่าว “แจกกล้วย” แลกโหวตนายกฯ  

วันนี้ (22 ส.ค.2566) การประชุมรัฐสภา วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญที่มีการเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย

ภายหลังการอภิปรายนานกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งแบ่งเป็น สว.2 ชั่วโมง และสส.3 ชั่วโมง มีการสลับลุกขึ้นอภิปรายคุณสมบัติของ นายเศรษฐา อย่างเข้มข้น โดยเริ่มจาก นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ลุกขึ้นอภิปรายคนแรกถึงคุณสมบัติของ นายเศรษฐา โดยบอกว่า สว.ต้องเลือกนายเศรษฐา ที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อมา พยายามติดตามว่านายเศรษฐา ทำอะไร ที่ไหน มีประวัติอย่างไร อีกทั้งได้สอบถามเพื่อนสว.ด้วยกัน ว่ารู้จักนายเศรษฐาหรือไม่ บางคนก็รู้จักว่าเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร แต่ตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร มีประวัติอย่างไร ส่วนใหญ่ก็ไม่ทราบ และทุกคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นคนดีหรือไม่ จึงเกิดคำถามแรกว่า คนที่จะมาเป็นนายกฯ ยังไม่รู้จักว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี ทำธุรกิจดีหรือไม่ดี สามารถนำพาประเทศไปได้หรือไม่ ไม่รู้จักแล้วจะเลือกอย่างไร

เมื่อถามพรรคพวก สว.ส่วนใหญ่ ก็ไม่รู้จัก และมีคำถามในใจทุกคน เพราะตำแหน่งนี้มีความสำคัญ ประเทศจะเจริญต่อไปได้มันอยู่ที่นายกฯ เพราะหลังจากนี้ต้องไปสร้างทีมบริหารรัฐบาล แล้วก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ทำเอกสารให้รับทราบว่าเขาเป็นใคร ประวัติเป็นอย่างไร นายวิวรรธน์ กล่าวอีกว่า จะเอาประเทศมาเสี่ยง เลือกคนๆ หนึ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรมาปกครองประเทศ เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน เอาเศรษฐกิจ เอาประเทศชาติ เอาความเจริญมาเป็นประกัน แม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นประกันหรือ ผมฟังแล้วมีความรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง แต่ในฐานะที่เราต้องเลือก ก็ต้องหาข้อมูล เมื่อไปตามเอกสารมาได้หลายชิ้น

ต่อมา นายวิวรรธน์ กล่าวในตอนท้ายก่อนจบอภิปรายว่า “เชื่อว่าสว.ทุกคนในที่นี้ มีสิทธิเลือก มีจริยธรรมทุกคน ถ้ารู้ข้อเท็จจริงแบบนี้เขาพิจารณาได้ว่าจะเลือกหรือไม่ แล้วอย่าลืมว่าเวลาที่ให้คำปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์ในการทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ผมได้ยินข่าวไม่ดีว่ามีการแจกกล้วยให้สว. ขอพูดตรงๆ ว่าเป็นคนดีๆ ไม่ชอบ อยากจะเป็นลิง อยากจะไปกินกล้วยชาวบ้านเขา ผมว่าผิดคำสาบาน ต่อไปจะโดนลงโทษ”

จากนั้นมีสมาชิกรัฐสภาได้ขึ้นมาอภิปรายอีกหลายคน จนกระทั่งเวลา 15.20 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้เปิดให้สมาชิกลงคะแนนโหวตนายกฯคนที่ 30 ขั้นตอนการลงมติจะขานชื่อโดยเปิดเผยมีคณะกรรมการนับคะแนนโดยเป็นสมาชิกรัฐสภา 6 คน โดยเรียงลำดับตามตัวอักษร มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง สส.โดยจากการนับองค์ประชุม 705 คน

จากนั้นเวลา 15.24 น. เริ่มโหวตใช้เวลาโหวตทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 17.35 น.ที่ประชุมรัฐสภาจึงสรุปผลโหวตนายเศรษฐา เห็นชอบ 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง จากทั้งหมด 705 เสียง ทำให้นายเศรษฐา ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

สำหรับประวัตินายเศรษฐา มีชื่อเล่นว่า “นิด” เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2506 ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์บริษัทแสนสิริ จบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงิน จาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา เริ่มการทำงานในปี 2529 เป็นผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท P&G ประเทศไทย (จำกัด) ก่อนมาดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

ต่อมา ต้นเดือนเมษายน 2566 เขาได้ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งของแสนสิริ พร้อมโอนหุ้นทั้งหมดของ บมจ.แสนสิริ (SIRI) จำนวนกว่า 661,002,734 หุ้น ให้แก่ นางสาวชนัญดา ทวีสิน ผู้เป็นบุตรสาว โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน เพื่อทำงานด้านการเมือง โดยดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เข้าร่วมงานทางการเมืองในนามพรรคเพื่อไทยในเดือน มี.ค.2566 ก่อนการเลือกตั้ง และได้รับการเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *