บอร์ดอนุพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กำหนดแผน Quick Win ส่งเสริมการค้าออนไลน์

คณะอนุกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Big Data และอินฟลูเอนเซอร์เพื่อการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประชุมนัดแรก วางยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ในการส่งเสริมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กำหนดแผน Quick Win ศึกษารูปแบบ แนวทาง การค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เจาะลึกปัญหาอุปสรรค และการสร้าง Single platform แบบครบวงจร ช่วยผู้ประกอบการไทยขายออนไลน์ได้เพิ่มขึ้น พร้อมมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนอย่างมีพลัง

นายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Big Data และอินฟลูเอนเซอร์เพื่อการค้า ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 ว่าที่ประชุมได้พิจารณาการจัดทำยุทธศาสตร์และกลยุทธ์การส่งเสริมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Big Data และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อการค้า โดยกำหนดแผน Quick Win มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ ไปศึกษารูปแบบ แนวทาง และกำหนดกรอบแนวทางการทำงานให้ชัดเจน ทั้งในส่วนของการกำหนดตัวสินค้า ระยะเวลา ระเบียบขั้นตอนของการค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ การสร้าง Single platform แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยผ่านการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น และกำหนดให้มีประชุมทุกเดือนเพื่อติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว และทันเหตุการณ์

นายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์

สำหรับการขับเคลื่อนการทำงานของหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ใช้เครื่องมือที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ มาบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และขยายโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทย ในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจและเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินการที่ผ่านมา เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อยกระดับความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรม ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการขยายตลาดทั้งระดับประเทศและระดับโลกด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เสริมสร้างครามร่วมมือในการสร้างยึดความสามารถทางวิชาการร่วมมือกันพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และส่งเสริมกลไกด้านพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน และด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ และศึกษาแง่มุมความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในการสร้างสภาพแวดล้อมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน

ส่วนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ Thaitrade.com ได้พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs กลุ่ม OTOP วิสาหกิจชุมชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ให้พร้อมทำการค้าออนไลน์เจาะตลาดโลก เตรียมจัดกิจกรรม Online Business Matching (OBM) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า พัฒนาระบบตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สู่สากล และจะเดินหน้าประชาสัมพันธ์ Thaitrade.com เพื่อขยายตลาดสินค้าไทยสู่ตลาดโลก และ ThaitradeChina.com เจาะตลาดจีน รวมทั้งจะเดินหน้าใช้ประโยชน์จากร้าน TOPTHAI ใน 7 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Amazon , Blibli , BigBasket , TMall , PChome , Klangthai และ Shopee เพื่อขยายตลาดสินค้าไทย และจะช่วยผู้ประกอบการแก้ไขปัญหาข้อจำกัดในการขายออนไลน์ในตลาดจีน เช่น การเปิดร้านบนแพลตฟอร์มของจีน การรับชำระเงินออนไลน์สำหรับผู้ขายที่ไม่ได้อยู่ในจีน

นอกจากนี้ ได้มีการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยใช้ระบบแนะนำกลยุทธ์ทางการค้าด้วยปัญญาประดิษฐ์เพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้า (Business AI) ครอบคลุม 5 หมวดสินค้าสำคัญ ได้แก่ เกษตร อาหาร ไลฟ์สไตล์และแฟชั่น สุขภาพและความงาม อุตสาหกรรม โดยช่วยวิเคราะห์โอกาสการส่งออก ความต้องการของตลาดให้ผู้ประกอบการไทยได้ใช้ประโยชน์ และการบูรณาการการทำงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เพื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลสถิติการค้า ในการขยายตลาดสินค้าไทยเป็นรายสินค้าและรายตลาด เช่น การส่งออกผลไม้ไปจีน ฮ่องกง มาเลเซีย เกาหลีใต้ CLMV สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น รวมถึงสินค้าอื่น ๆ ที่จะจัดทำเพิ่มขึ้นในอนาคต

ขณะเดียวกัน ได้ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง ทำการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยในลักษณะของการ live เพิ่มมากขึ้น โดยที่ผ่านมากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการร่วมกับ Opal PanisaraOfficial , PookiePangnakorn, บี้ (BIE XU) ซึ่งเป็นนักร้องและนักแสดงลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน สามารถพูดจีนและไทยได้ และยังเป็นนักแสดงที่โด่งดังในประเทศจีน และ Kenji (มะม่วง) ส่วนในตลาดต่างประเทศ เช่น จีน จะร่วมมือกับผู้ที่มีชื่อเสียงในจีน ให้มาช่วยประชาสัมพันธ์อาหารไทย ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากไทยเพิ่มมากขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *