สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ยังส่อเค้ารุนแรงต่อเนื่องหลังหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ภาคกลางหลายจังหวัดค่าสูงเกินมาตรฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตือนควรสวมหน้ากากป้องกันเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้งเพื่อรักษาสุขภาพ
หลังสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ส่อเค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุด หลายหน่วยงานอาทิ กระทรวง อว.โดย GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ในช่วงเช้าวันนี้ ( 8 มกราคม 2567) พบ 3 จังหวัดที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง คือ สมุทรสงคราม 112.3 ไมโครกรัม สมุทรสาคร 92.7 ไมโครกรัม นครปฐม 76.7 ไมโครกรัม และ พบอีก 38 จังหวัด ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม โดย 5 อันดับแรกสีส้ม ได้แก่ ราชบุรี 71.4 ไมโครกรัม อ่างทอง 70.7 ไมโครกรัม ชัยนาท 70.4 ไมโครกรัม สิงห์บุรี 67.1 ไมโครกรัม และ นนทบุรี 64.0 ไมโครกรัมส่วนกรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม ทั่วทุกเขต โดย 3 อันดับแรก คือ ดอนเมือง 70 ไมโครกรัม หลักสี่ 69.6 ไมโครกรัม และ หนองแขม 62.3 ไมโครกรัม
ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 217 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่การเกษตร 97 จุด ตามด้วยพื้นที่เขต สปก. 40 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 39 จุด ชุมชนและอื่นๆ 28 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 8 จุด และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 5 จุด โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ลพบุรี 30 จุด ตามด้วย ขอนแก่น 17 จุด และ ชลบุรี 12 จุด
ขณะที่ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 812 จุด ตามด้วย พม่า 391 จุด ลาว 99 จุด และเวียนดนาม 81 จุด
อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตือนให้ ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ