กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยสถิติสินค้าขายแล้วปัง ดังบนช้อปปี้จากแคมเปญ “สุขใจซื้อของไทย” 3 อันดับ คือ อาหาร แฟชั่น และสินค้าแม่และเด็ก พร้อมเผย 7 เทคนิคที่จะทำให้ร้านค้าออนไลน์ประสบความสำเร็จในปี 2567 ได้แก่ บริการหลังการขายที่ดี อัพเดทสินค้าเสมอ ใช้ภาพสื่อสาร ใช้เครื่องมือของแพลตฟอร์ม ศึกษาข้อมูลเชิงลึก เข้าร่วมแคมเปญ และจัดการสต๊อกสินค้าให้ดี กรมฯ ย้ำความร่วมมือที่ดีแบบนี้จะเดินหน้าต่อไปไม่หยุด!
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับช้อปปี้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านแคมเปญ “สุขใจซื้อของไทย” ให้แก่ผู้ประกอบการไทย เช่น แจกโค้ดส่วนลดผ่านกิจกรรม Seasonal Campaign หรือการแจก Coins ซึ่งกิจกรรมเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 สร้างยอดขายรวมกันกว่า 192,000,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) สำหรับประเภทสินค้า 3 อันดับที่ขายดีบนแคมเปญฯ ได้แก่ อันดับที่ 1 ประเภทอาหาร เช่น น้ำพริก เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาหารทะเลตากแห้ง อันดับที่ 2 ประเภทแฟชั่น เช่น กระเป๋า ผ้าขาวม้า และอันดับที่ 3 ประเภทสินค้าแม่และเด็ก เช่น น้ำมันหอมแดงแก้คัดจมูก สเปรย์กันยุงออแกนิกส์ จากสถิติพบว่า ผู้ประกอบการมีการปรับตัวโดยใช้เทคนิคการขายสินค้าแบบไลฟ์สดมากขึ้น ซึ่งการไลฟ์จำหน่ายสินค้าโดยผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด (INFLUENCER Live) เติบโตถึง 55.5% โดยพบว่าหมวดหมู่คอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานมากที่สุด ได้แก่ หมวดหมู่สินค้าแฟชั่น, หมวดหมู่สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
อธิบดี กล่าวต่อว่า “จากความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการกับแพลตฟอร์มช้อปปี้พบว่า เคล็ดลับที่จะทำให้ร้านค้าออนไลน์ประสบความสำเร็จในปี 2567 ต้องมี 7 ข้อ ดังนี้ 1) การบริการหลังการขาย หากลูกค้าพบปัญหาหลังจากสั่งซื้อสินค้าจะต้องมีทีมงานคอยให้ความช่วยเหลือและไม่ทอดทิ้งความคิดเห็นของลูกค้า 2) มีคอลเลกชันใหม่ให้ลูกค้าติดตามอยู่เสมอ เพื่อให้ร้านมีความเคลื่อนไหว ตลอดจนเพิ่มจำนวนผู้ติดตามซึ่งจะช่วยสร้างยอดขายได้ในอนาคต 3) การใช้รูปภาพสินค้าที่น่าดึงดูด ช่วยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่ง่ายขึ้น เช่น ถ้าเป็นสินค้าแฟชั่น การนำเสนอสินค้าผ่านนางแบบจะช่วยให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดสินค้าชัดเจนและเห็นถึงรูปแบบการใช้งานจริง รวมไปถึงเทคนิคการแต่งตัวที่ลูกค้าสามารถนำไปเป็นแนวทางในการแต่งตัวได้ ที่สำคัญรูปภาพต้องไม่มีการตกแต่งดัดแปลงเยอะจนเกินไปเพราะจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกดีที่ได้รับสินค้าตรงกับภาพที่ใช้ในการตัดสินใจรวมถึงการใช้ภาพที่สื่อถึงสินค้าได้ดีจะทำให้ลดระยะเวลาในการตอบคำถามลูกค้า เพราะสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้จากภาพและรายละเอียดสินค้าที่ร้านค้าแจ้งไว้ได้ทันที
4) การเลือกใช้ฟีเจอร์หรือเครื่องมือใน Shopee Seller center เช่น การทำ Shopee Live จะช่วยกระตุ้นยอดขาย และพูดคุยแบบ real time ก็ช่วยให้ผู้ซื้อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 5) การใช้ Business insight จะช่วยให้ผู้ประกอบการรู้แนวทางการพัฒนาร้านค้าออนไลน์ เนื่องจากจะช่วยวิเคราะห์ ยอดขาย จำนวนคำสั่งซื้อ อัตราการซื้อสินค้า จำนวนผู้เข้าชม และยังสามารถจัดอันดับสินค้าในร้านค้าได้อีกด้วย สามารถวางแผนในการขายสินค้าและพัฒนาร้านค้าต่อไปได้ 6) การเข้าร่วมแคมเปญกับแพลตฟอร์ม เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างยอดขาย สร้างผู้ติดตามและสร้างการมองเห็นให้กับร้านค้า ทำให้ยอดขายที่เข้ามาช่วงแคมเปญเพิ่มขึ้นกว่าวันปกติ ยิ่งถ้ามีการไลฟ์ในวันแคมเปญการมองเห็นของลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก 7) การจัดการสต๊อกสินค้าให้เพียงพอกับความต้องการลูกค้า หากลูกค้ามีความต้องการในปริมาณมากจะได้รองรับการซื้อจากลูกค้าได้ทันที”
“อย่างไรก็ดีตลอดทั้งปี 2567 กรมฯ ยังมีแผนร่วมมือกับช้อปปี้อย่างต่อเนื่องเพื่อมอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการออนไลน์ไทยบนช้อปปี้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขาย ขยายโอกาสทางการตลาดออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงยังมีคอร์สอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ และเมื่อเข้าร่วมโครงการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วจะมีสิทธิในการเข้าร่วมแสดงสินค้าในแคมเปญสุขใจซื้อของไทยของช้อปปี้ได้ด้วย” อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย