กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) จัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า ลดภาระค่าใช้จ่าย ส่งเสริมการใช้สิทธิพิเศษทางภาษี และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน หวังเพิ่มยอดการส่งออกส่งท้ายปลายปี 2567
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า คต. ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย จัดการสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในหัวข้อ “สร้างแต้มต่อทางการค้าแก่ผู้ส่งออกไทยด้วย Self-Cer ครั้งที่ 3” เพื่อผลักดันส่งเสริมและเพิ่มช่องทางการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีให้เพิ่มมากขึ้น โดยเป็นไปตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งให้ภาคธุรกิจสามารถประกอบธุรกิจและแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า ลดภาระค่าใช้จ่าย ลดระยะเวลา ลดขั้นตอนการส่งออก รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ โดยมีกำหนดการจัดงานวันพุธที่ 11 กันยายน 2567 ณ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ กรมฯ ได้จัดวิทยากรในการอบรมให้ความรู้ และการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) ซึ่งผู้ประกอบการจะได้ทดลองใช้ระบบจริง สำหรับขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกที่ได้รับสิทธิฯ และการรายงานข้อมูลการส่งออก รวมทั้งสามารถขอคำปรึกษาแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้อย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้มีการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจากการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองให้มากขึ้น
นายรณรงค์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีด้วยรูปแบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองนั้น ผู้ส่งออกสามารถดำเนินการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองลงในเอกสารทางการค้าได้ ณ สถานประกอบการ ซึ่งเป็นวิธีการที่สะดวกรวดเร็ว โดยปัจจุบันผู้ส่งออกสามารถดำเนินการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองได้ 3 กรอบความตกลง ได้แก่ 1) กรอบความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Wide Self-Certification: AWSC) 2) การขอรับสิทธิ GSP ของสวิสเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ (REX System) และ 3) กรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ทั้งนี้มีมูลค่าการส่งออกโดยใช้สิทธิฯ Self-Cer รวมทั้ง 3 กรอบความตกลงเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 2565-2567 (ม.ค.-มิ.ย.) ดังนี้ ปี 2565 เท่ากับ 2,386.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+20.53%) ปี 2566 เท่ากับ 3,815.06 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+59.83%) และปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) 1,739.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+44.16%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ไทยอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องดังกล่าวภายใต้กรอบความตกลงการค้าอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
นายรณรงค์ฯ กล่าวช่วงท้ายว่า การจัดโครงการสัมมนาตามหลักสูตรดังกล่าวในครั้งนี้ จะเป็นการช่วยเพิ่มความขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยผลักดันมูลค่าการส่งออกของไทยให้สูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ
ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารการนำเข้าและรับรองถิ่นกำเนิด กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 02-5474808 และ 02-5475132 E-mail: importad@moc.go.th