“สุริยะ” สั่งดูแลประชาชนใกล้ชิดจนกว่าจะคลี่คลาย ระดมเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ช่วยเหลือต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเข้าฟื้นฟูเส้นทางเมื่อน้ำลดให้สามารถใช้สัญจรได้โดยเร็ว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยว่า ตนได้มีการประชุมร่วมกับหัวหน้าในหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมคม และได้สั่งการให้เร่งเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีความพร้อมรับมือกับเหตุอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการให้ความช่วยเหลือในการดำรงชีพช่วงน้ำท่วม กำชับต้องเข้าถึงพื้นที่และแก้ปัญหาเส้นทางคมนาคมที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว พร้อมทั้งเตรียมการรับมือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

สำหรับสถานการณ์อุทกภัย โดยศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม รายงานว่า ในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ประเทศไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมาก 4 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา โครงข่ายคมนาคมที่ได้รับผลกระทบสะสมรวม 181 แห่ง ผ่านไม่ได้ 18 แห่ง ประกอบด้วย เส้นทางหลวง ได้รับผลกระทบ 84 แห่ง ผ่านไม่ได้ 8 แห่ง เส้นทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ 96 แห่ง ผ่านไม่ได้ 9 แห่ง เส้นทางรถไฟ ได้รับผลกระทบผ่านไม่ได้ 1 แห่ง

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือและดูแลประชาชน โดยกรมทางหลวง (ทล.) คอยอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง รวมถึงจัดถุงยังชีพเพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัย และเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 9 (อุตรดิตถ์) และแขวงทางหลวงชนบทสุโขทัย เร่งระดมเจ้าหน้าที่บรรจุกระสอบทราย เพื่อนำไปวางเป็นแนวกั้นน้ำบริเวณพื้นที่ชุมชนอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่จัดถุงยังชีพ ประกอบด้วยอาหารแห้ง น้ำดื่ม และของใช้จำเป็น มอบให้กับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ

กรมเจ้าท่า (จท.) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยเรือท้องแบนพระราชทาน เรือเจ็ทสกี และรถยนต์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน นำถุงยังชีพ อาหารกล่องและน้ำดื่ม มอบให้ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก และตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย กำลังพลประจำพื้นที่พร้อมให้การช่วยเหลือและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งช่วยขนย้ายสิ่งของ และรับส่งประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเข้า-ออก บ้านพักอาศัย พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการขุดขยายคอสะพานบริเวณคลองน้ำไหล อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ทำให้ขณะนี้ภาพรวมการให้บริการยังไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ รฟท. จะติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน


นายสุริยะ ได้กำชับให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะ ทล. ทช. จท. และ รฟท. เร่งดำเนินการโดยบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานต่าง ๆ และรายงานศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม ตามแผนปฏิบัติการ ตลอดถึงการเข้าแก้ไขปัญหาเพื่อปรับคืนเส้นทางสู่สภาพเดิมภายหลังน้ำลดในเบื้องต้นโดยใช้งบประมาณที่มีอยู่ โดยต้องเข้าพื้นที่ฟื้นฟูเพื่อเร่งคืนสภาพผิวจราจรทุกพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้เส้นทางให้เดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็วที่สุด และให้ทำการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อพิจารณาขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับซ่อมแซมต่อไป
“ทั้งนี้ ขอฝากความห่วงใยพี่น้องประชาชนให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และขอให้ผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด” นายสุริยะ กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *