นายกฯเปิดตัว “บ้านเพื่อคนไทย” ปลื้มคนแห่จองล้น เล็งขยายโครงการต่อ

นายกฯเปิดตัว “บ้านเพื่อคนไทย” ตั้งเป้ายกระดับชีวิตประชาชน เล็งขยายโครงการต่อ “สุริยะ” ปลื้มชั่วโมงแรกเข้าเว็บไซต์กว่า 12 ล้านคนจนเวปไซด์ล่ม

ที่โถงกลางประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดชมห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

โดย นายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ดีมากๆในที่สุดเราได้มาเห็นห้องตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมกับนโยบายนี้ และวันนี้อยากจะถามทุกท่านว่าทราบหรือไม่ว่าคนไทยจำนวนมากไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ตัวเลขที่ได้ทำการบ้านมาคือคนไทยกว่า 5.87 ล้านครอบครัวหรือคิดเป็นประมาณ 27% ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง รัฐบาลนี้เน้นย้ำเรื่องของการช่วยเหลือซัพพอร์ตพี่น้องประชาชนนั่นคือสิ่งที่สำคัญ เราพยายามมีนโยบายที่จะดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงสวัสดิการทุกอย่างของรัฐ และให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี บ้านเพื่อคนไทยจะช่วยซัพพอร์ตผู้ที่เริ่มทำงานพยายามจะเก็บตังค์เพื่อมีบ้าน มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองแต่ว่าพอเก็บตังค์ไปราคาบ้านก็สูงขึ้นเรื่อยๆพอไปซื้อบ้านอยู่ไกลจากที่ทำงาน รถติด ไกลจากรถไฟฟ้ากว่าจะมาถึงที่ทำงานใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง กลับบ้านอีกชั่วโมงครึ่ง 1 วันเสียไป 3 ชั่วโมง เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกคนรู้สึกเหนื่อยล้ารู้สึกว่าการทำงานในแต่ละวันมันช่างเหนื่อยล้าเกิดผลกระทบกับรัฐบาล และประเทศคนที่มีศักยภาพเหล่านั้นจะหมดแรง ประเทศชาติแทนที่จะพัฒนา ก็พัฒนาไม่ได้ เท่าที่ควร หากประชาชนมีที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานประหยัดเวลา ทำให้มีศักยภาพในการทำงาน มีแรงผลักดันมากขึ้นในการทำงานมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลอยากให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี บ้านเพื่อนคนไทยเป้าหมายยกระดับชีวิตเพื่อพี่น้องประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเองอยู่อย่างปลอดภัย คือสิ่งที่รัฐบาลต้องการ

นายกฯ กล่าวอีกว่า โอกาสนี้ขอขอบคุณกระทรวงคมนาคมที่ผ่านมาทำงานหนักเป็นอย่างมากในวันนี้คิดว่าหายเหนื่อยไปหนึ่งสเต็ปแล้ว และขอบคุณกระทรวงการคลังที่เป็นหลักใหญ่ในการช่วยกันทำโครงการนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนร่วมมือ ร่วมใจกันแบบนี้ในทุกนโยบายของรัฐบาลเพื่อประเทศชาติเพื่อพี่น้องประชาชน

จากนั้น นายกฯ เยี่ยมชมตัวอย่างบ้านที่มีทั้งแบบบ้านเดี่ยว 1 แบบ และคอนโด 3 แบบ โดยมี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว ร่วมชมบ้านตัวอย่างด้วย ต่อมานายกฯ ทักทายประชาชนที่มารอชมบ้านตัวอย่าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีเปิดให้จองไม่กี่นาทีเว็บไซต์ก็เกิดล่มจำเป็นต้องแก้ไขระบบอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูว่าจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง และจากการที่ได้ดูบ้านตัวอย่างรู้สึกชอบเลย เพราะมันดูคลีนสบายตา คิดว่าหากได้อยู่คงสบาย คอนโดที่อยู่ในตลาดขนาดเริ่มต้นประมาณประมาณ 24 ตารางเมตร ขนาดของบ้านคนไทยมองว่าขนาดดี บ้าน 2 ห้องนอน ครอบครัวที่มีลูก 1 – 2 คน อายุไม่ถึง 10 ปี อยู่ได้ไม่อึดอัด เมื่อถามต่อว่า เปิดตัวแล้วได้การตอบรับที่ดีจะมีการขยายโครงการต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราอยากให้ทุกคนจึงต้องดูว่าจะขยายเฟสต่อไปได้หรือไม่

เมื่อถามอีกว่า โครงการนี้จะมีผลดี และผลเสียอย่างไรต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ นายกฯ กล่าวว่า เราพยายามวางกฎเกณฑ์ของคนที่จะเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งเราต้องการให้กับให้กับกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านในเมือง แต่ไม่สามารถซื้อได้เนื่องจากมีรายได้น้อย แทนที่ไม่มีสิทธิ์เลย อันนี้จะทำให้เขาได้มีสิทธิ์ เราไม่ได้ไปแย่งกับตลาดไหนอย่างแน่นอน โดยเรามุ่งนำที่ดิน ที่ยังไม่ที่ได้ใช้มาให้ประชาชนอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรี ได้เดินไปพบปะพูดคุยกับประชาชนที่เดินทางมารอลงทะเบียนจองสิทธิ์ ซึ่งประชาชนบางคนบอกว่ามารอตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะรีบมาเข้าคิวจองสิทธิ์บ้านเพื่อคนไทย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคม กล่าวหลังพิธีเปิดโครงการบ้านเพื่อคนไทย ว่า โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้หลังจากที่มีการเปิดโครงการนำร่อง 4 โครงการ เท่าที่ทราบตั้งแต่ชั่วโมงแรก มีเข้าเวปไซด์แล้วกว่า 12 ล้านคน จนทำให้เวปไซด์ล่ม ซึ่งหลังจากประชาชนลงทะเบียนเข้ามา ก็จะมีส่งข้อมูลให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ตรวจสอบอีกครั้ง และหากผ่านแล้วต้องเข้าสู่วิธีการสุ่มผ่านกองสลาก ว่า ใครจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ ซึ่งกรรมสิทธิ์มีระยะเวลา 99 ปี แต่กฏหมายให้ต่อทุก 30 ปี โดยอยู่ระหว่างแก้กฏหมาย

ทั้งนี้ โครงการนำร่องดังกล่าวเกือบ 5,000 ยูนิต ใน 4 แปลง กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยลักษณะบ้านเดี่ยวจะเป็นที่เชียงใหม่ ส่วนที่เหลือจะเป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้นและ 12 ชั้น ขนาด 30-50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะเริ่มปักเสาเข็มก่อสร้างใน 3 เดือนนี้หลังจากมีการตรวจสอบสิทธิ์ เริ่มที่บางซื่อและที่กม. 11 ก่อน และคาดว่า ประมาณกลางปี 69 ประชาชนที่จองบ้านเดี่ยวที่จ.เชียงใหม่ น่าจะได้เข้าอยู่ก่อน เพราะยูนิตน้อยเพียง 35 หลัง

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *