นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “CHIANGRAI NORTHERN BORDER TRADE FESTIVAL” ณ ศาลากลางหลังเก่า ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ลาน ร.5) จังหวัดเชียงราย เย็นวานนี้(12 ก.พ.68) ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการนำสินค้าคุณภาพจากภาคเหนือ 17 จังหวัดมาจัดแสดงและจำหน่าย พร้อมเชื่อมโยงตลาดการค้าชายแดน เพื่อขยายโอกาสให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยรวบรวมผู้ประกอบการชั้นนำจากภาคเหนือ เมียนมา และ สปป.ลาว กว่า 50 คูหา พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจผ่านการ จับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และสร้างเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศ โดยมีผู้ซื้อและผู้ขายกว่า 100 ราย เข้าร่วม ระหว่างวันที่ 12-16 ก.พ.2568
นายพิชัย ระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการนำร่อง “พาณิชย์สัญจร” เพื่อโปรโมตสินค้าไทยและผลักดัน SME ไทยรายใหม่เข้าสู่ตลาด โดยภาคเหนือเป็นจุดเริ่มต้น ก่อนขยายไปยังภูมิภาคอื่นในอนาคต ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะทำ Thailand Brand เป็นเครื่องการันตีคุณภาพสินค้าไทย โดยคัดเลือกสินค้าที่มีศักยภาพจากแต่ละจังหวัด เพื่อโปรโมตในระดับสากล และเปิดโอกาสให้ SME ไทยเติบโตแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์
และกระทรวงพาณิชย์ยังเตรียมพัฒนา “ซุปเปอร์แอป” ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) การจดทะเบียนธุรกิจ และข้อมูลตลาด รองรับการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ตามแนวทางของ นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งท่านนายกฯ เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นอะไรใหม่ๆ เราจึงเดินหน้าสร้างแพลตฟอร์มที่ทันสมัยเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพิชัย ย้ำว่า คนไทยมักมองข้ามคุณค่าของสินค้าไทย ทั้งที่ต่างชาติโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านมองว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าพรีเมียม ซึ่งสะท้อนมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพสูงตนอยากให้คนไทยหันมานิยมสินค้าไทย เพราะสินค้าของเรามีมาตรฐานที่ดีมาก คนไทยต้องเปลี่ยนมุมมองและเพิ่มโอกาสให้ SME ไทยได้เติบโต ปัจจุบันสัดส่วน SME ในไทยอยู่ที่เพียง 30% ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วมีสัดส่วน SME มากถึง 60-70% เราจึงต้องผลักดันให้ SME ไทยเพิ่มขึ้นเป็น 40-50% เพื่อกระจายรายได้และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
โดยงาน “CHIANGRAI NORTHERN BORDER TRADE FESTIVAL” เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือ และเปิดโอกาสให้สินค้าไทยก้าวสู่ตลาดโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าจัดกิจกรรมลักษณะนี้ในภูมิภาคอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยในทุกระดับต่อไป
